To top
8 Jun

HERMÈS 101: HISTORY OF THE LEGENDARY BAGS

HERMÈS 101 : HISTORY OF THE LEGENDARY BAGS หนึ่งในแบรนด์แฟชั่นเฮ้าส์สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ความหรูหราและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงความหายาก เป็นจุดแข็งที่ทำให้แบรนด์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน

จากธุรกิจเกี่ยวกับนักขี่ม้า สู่วงการผลิตเครื่องหนังเครื่องประดับสุดหรูติดอันดับโลก ในปัจจุบัน Hermes ยังคงตั้งหน้า รักษาและคงความเป็นเอกลักษณ์อันหรูหราคลาสสิกเหล่านี้เอาไว้ ติดตามเรา KATEXOXO ในการเดินทางผ่านกาลเวลา ตามรอยที่มาของเหล่ากระเป๋าอันมีชื่อเสียงของแบรนด์อันน่าทึ่งเหล่านั้น ตั้งแต่ The Haute-à-Courroies bag จนถึง Birkin bag ในปัจจุบัน ที่มาของสุดยอดกระเป๋าเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง ติดตามได้จากบทความนี้

HISTORY OF THE LEGENDARY BAGS

Thierry Hermès: The Founding of an Empire : [1837-1878]

 

Thierry Hermès (1837-1878)

Thierry Hermès (1837-1878)

เรื่องราวของแบรนด์ Hermes เริ่มต้นจาก Thierry Hermès ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เขาเกิดเมื่อวันที่ 10 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1801 ที่เมือง Krefeld ในเขต North Rhine-Westphalia ของเยอรมัน ในเวลานั้น เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่หนึ่งที่เพิ่งถูกยึดไป ดังนั้นเธียร์รีจึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นพลเมืองฝรั่งเศสในจักรวรรดิฝรั่งเศสที่หนึ่งที่กำลังขยายตัว ภายใต้การนำของนโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)

ในปี ค.ศ. 1828 ครอบครัวได้ย้ายจากเครเฟลด์ไปยังปารีส หลังจากสูญเสียสมาชิกส่วนใหญ่ไปเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บและการสูญเสียในสงครามนโปเลียนที่กำลังดำเนินอยู่ ในปี ค.ศ. 1837 Hermès ได้ดำเนินธุรกิจแรกของเขา ร้านของเขาตั้งอยู่ที่ Rue Basse-du-Rempart ในเมืองปารีส ให้บริการเครื่องหนังบังเหียนสำหรับขี่ม้า โดยส่วนใหญ่ลูกค้าของเขาจะเป็นขุนนางชั้นสูงและนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง Hermès ได้รับรางวัลสำหรับการออกแบบของเขา รวมถึงรางวัลที่หนึ่งในงาน World’s Fair ปี ค.ศ. 1867 ที่กรุงปารีส

วันที่ 10 มกราคม ปี ค.ศ. 1878 เทียร์รี่ถึงแก่กรรม ที่เมือง Neuilly-sur-Seine ในกรุงปารีสและธุรกิจของเขาได้ส่งไม้ต่อให้กับ Adolphe และ Émile-Maurice Hermès หลานชายของเขาดำเนินงานต่อ

Adolphe and Émile-Maurice Take the Reins : [1880-1900]

Emile Maurice : Courtesy of Nuvo Magazine

Emile Maurice : Courtesy of Nuvo Magazine

ปี ค.ศ. 1880 ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งแรกของ Hermes คือ การย้ายร้านจาก Rue Basse-du-Rempart หลังจากที่ถนนถูกรื้อถอนเพื่อขยายทั้ง Boulevard des Capucines และ Boulevard de la Madeleine มาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ 24 Rue Faubourg Saint-Honoré ซึ่งเป็นที่ตั้งของบูทีคในปัจจุบัน

ณ ที่แห่งนี้ Adolphe และ Émile-Maurice ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องอานม้าและเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของพวกเขาในร้านค้าปลีกสู่สาธารณะเป็นครั้งแรกสำหรับ Hermès ลูกค้าของบ้านขยายตัวอย่างรวดเร็ว และ Hermès เริ่มตอบสนองความต้องการและความปรารถนาของชนชั้นสูงทั่วโลก

 

Haute-à-Courroies : 1900

ในปี ค.ศ. 1900 ทั้ง 2 พี่น้องได้เปิดตัวสิ่งที่จะเป็นต้นแบบและเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของแฟชั่น นั่นคือ กระเป๋า Haute-à-Courroies ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อของ HAC Birkin ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขี่ม้า และเพื่อความสะดวกในการจัดเก็บอานม้าขณะเดินทาง

Haut à courroies ถือได้ว่าเป็นกระเป๋าใบแรกที่ทางแบรนด์ผลิต และไม่ผิดหากจะบอกว่าเป็นกระเป๋า Hermès ที่ทันสมัยที่สุดรุ่นหนึ่งด้วย กระเป๋ารุ่นนี้ผลิตขึ้นเพื่อการพกพาและปกป้องอานม้าและรองเท้าขี่ม้า ความสูงและความกว้างของกระเป๋าใบนี้จึงใหญ่กว่ารุ่นปกติ มันทำให้ชีวิตของนักข่ม้าง่ายขึ้น ก่อนที่ยุคของรถยนต์จะเฟื่องฟู

นอกเหนือจากการใช้งานได้จริงแล้ว ชิ้นงานที่สวยงามยังมีสัมผัสที่นุ่มนวลอีกด้วย กระเป๋าที่ยึดด้วยสายรัดไม่มีชื่อเรียกในตอนแรก ดังนั้นจึงกลายเป็น Haut à courroies ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษหมายถึงทรงสูง (Haut) และสายรัด (courroies) กระเป๋าหนังรุ่นนี้เป็นต้นแบบของงานฝีมือและเครื่องอานม้าของแอร์เมส

หลังจากก่อตั้งบริษัทในที่ตั้งใหม่ได้ไม่นาน Émile-Maurice ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Hermès Frères” และยังคงขยายบริษัทและมีชื่อเสียงโด่งดังในเวทีระดับโลก ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 Émile-Maurice ไปเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นจุดที่กำลังเติบโตในด้านการเงินและอุตสาหกรรมในระดับนานาชาติ ระหว่างเดินทางไปอเมริกา เขาได้พบปะกับเฮนรี ฟอร์ด นักอุตสาหกรรมผู้ทะเยอทะยานและเจ้าสัวยานยนต์ ผู้ซึ่งแนะนำให้เขารู้จักกับโลกของเวิร์กช็อปในโรงงาน

ขณะที่เขาเดินทางต่อไปยังแคนาดาในทัวร์เดียวกัน Émile-Maurice ได้รับคำแนะนำให้รู้จักกับเครื่องมือใหม่เอี่ยม นั่นคือซิป เมื่อเห็นศักยภาพที่ยอดเยี่ยมของอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เรียบร้อยนี้ เอมิล-มอริซจึงรีบนำองค์ประกอบการก่อสร้างกลับไปยังฝรั่งเศส และยื่นจดสิทธิบัตรที่นั่นสำหรับการออกแบบ กลายเป็นบุคคลแรกที่แนะนำการออกแบบในประเทศนี้

ในช่วงปลายทศวรรษ 1910 Hermès Frères ได้ออกแบบเสื้อผ้าและกระเป๋าถือรุ่นแรกที่มีซิป ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วฝรั่งเศสอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าซิปก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในชื่อ Hermès fermature หรือ “ซิป Hermès”

 

Bolide : 1923

ปี ค.ศ. 1923 เมื่อ Emile-Maurice Hermes ออกแบบกระเป๋าให้กับภรรยาสุดที่รัก นับว่าเป็นกระเป๋าใบแรกที่มีการนำซิปมาตัดเย็บ เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราอย่างมากในสมัยนั้น ด้วยรูปทรงโค้งมน ผิวกระเป๋าที่อ่อนนุ่มจนสามารถจับเก็บในกระเป๋าสัมภาระได้ง่าย โดยดีไซน์ของกระเป๋าใบนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความงามแบบคลาสสิกและการใช้งานได้จริง จึงมาพร้อมสายสะพายไหล่ที่ถอดออกได้และรูปทรงโค้งมน ซึ่งมี สองรูปแบบ คือแบบนุ่ม และแบบแข็ง จึงได้รับความนิยมอย่างสูงในฐานะ Everyday Bag มาจนถึงทุกวันนี้

กระเป๋าถือ Hermès รุ่น Bolide เป็นกระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักเดินทางรอบโลก โดยกระเป๋าจะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเพื่อให้เข้ากับรถสปอร์ต หรือกระเป๋าเดินทางได้อย่างง่ายดาย Emile-Maurice Hermès CEO ของ Hermès เป็นผู้ค้นพบกระเป๋าซิปนี้ระหว่างเดินทางไปอเมริกา ระหว่างเยี่ยมชมโรงงานของ Henry Ford เขาก็ได้สะดุดตากับอุปกรณ์ซิปบนผ้าคลุมรถ จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจถึงกระเป๋า Bolide ที่มีซิปนั่นเอง

ในช่วงทศวรรษที่ 1930 พวกเขาขยายเข้าสู่โลกการผลิตแห่งนาฬิกา โดยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญกับ Universal Genève ผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้ Hermès ผลิตนาฬิกาชั้นยอดในกลไกการเดินของช่างนาฬิกาผู้ช่ำชอง และ Hermès สามารถสร้างสายนาฬิกาได้เอง ความร่วมมือครั้งนี้ดำเนินต่อไปเพียงช่วงสั้น ๆ เมื่อ Hermès เริ่มผลิตนาฬิกาในโรงงานของตัวเอง

การเติบโตนี้ดำเนินต่อไปจนถึงทศวรรษที่ 1940 และในปี ค.ศ. 1949 Hermès ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอมใหม่ที่เรียกว่า Eau d’Hermès รวมถึงเนคไทผ้าไหม Hermès สำหรับผู้ชาย น้ำหอมและผลิตภัณฑ์ผ้าไหมกลายเป็นสินค้าขายดีของแบรนด์ในเวลาต่อมา

 

Robert Dumas-Hermès : [1951-1978]

Robert Dumas-Hermès

Robert Dumas-Hermès

หลังจากการเสียชีวิตของ Emile-Maurice Hermes ก็ถึงคราวของผู้มีศักดิ์เป็นลูกเขยอย่าง Robert Dumas-Hermes ขึ่นกุมบังเหียนของแบรนด์ ในช่วงเริ่มแรกที่เข้ามาบริหาร เขาได้สร้างภาพจำให้กับแบรนด์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โลโก้ม้าและรถม้าที่แพร่หลายในขณะนี้ รวมถึงออกแบบและพัฒนาในหลาย ๆ ส่วนของบริษัท รวมทั้งในส่วนของกระเป๋าถือและเครื่องหนัง

 

Sac à dépêches (Hermes Kelly Bag) : 1956

ในปี ค.ศ. 1956  Robert Dumas ได้ทำการออกแบบกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู เปรียบเสมือนหน้าต่างของแบรนด์สู่โลกสมัยใหม่ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าสำหรับจัดเก็บอานม้า กระเป๋ารุ่นนี้โด่งดังเป็นพลุแตก เมื่ออดีตนักแสดง เกรซ เคลลี่ คู่หมั้นของเจ้าชายแรนีแยร์ (Prince Rainier) แห่งโมนาโค ได้นำกระเป๋ารุ่น Sac à dépêches  ดังกล่าว มาบังท้องของเธอไว้ เพื่อปิดข่าวการตั้งครรภ์ขณะกำลังถูกถ่ายภาพโดยปาปารัซซี่ของนิตยสารไลฟ์ ซึ่งเมื่อภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้กลายเป็นกระแสในชั่วข้ามคืน

Grace Kelly

Grace Kelly

เมื่อภาพที่ปรากฏในนิตยสาร Life ถูกเผยแพร่กระจายไปทั่ว เหล่าสตรีผู้หลงไหลในแฟชั่นต่างพากันมาที่ร้านแอร์เมสพร้อมกับถามหา “Kelly Bag” จนในที่สุด Hermès ก็นำชื่อนี้ไปตั้งเป็นชื่อรุ่นของกระเป๋าอย่างเป็นทางการ นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้แบรด์ Hermes เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เข้าสู่แวดวงสินค้าหรูระดับโลก และได้รับความสนใจจากสาธารณชนทั่วไปในฐานะแบรนด์หรูหรา

 

Constance : 1959

ในปี ค.ศ. 1959 กระเป๋ารุ่น Constance ได้ถือกำเนิดขึ้น ออกแบบโดย Catherine Chaillet ซึ่งออกแบบกระเป๋ารุ่นนี้ขณะเธอกำลังตั้งครรภ์ และถูกตั้งชื่อตามลูกของเธอ เพื่อเป็นเกียรติแก่ Constance ลูกคนที่ 5 ของเธอ ซึ่งคลอดลูกในวันเดียวกับที่ Constance ใบแรกออกจากโรงงานผลิต ด้วยสายสะพายหนังที่ช่วยให้สะพายกระเป๋าได้อย่างอิสระ ในไม่ช้า กระเป๋ารุ่นนี้ก็กลายเป็นไอเท่มโปรดของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกา Jacqueline Kennedy ผู้ซึ่งทำให้ Constance เป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงของฮอลลีวูด

ด้วยตัวดีไซน์กระเป๋าที่เรียบง่าย รวมถึงสายสะพายแบบเรียวเล็กที่สามารถปรับระดับได้ ตัวล็อคกระเป๋าที่เป็นตัว H สัญลักษณ์ของ Constance จดจำได้ทันทีที่มองเห็น กระเป๋ารุ่นนี้ใช้เวลาตัดเย็บกว่า 14 ชั่วโมงจึงได้มาซึ่งกระเป๋ารุ่นนี้ 1 ใบ จากช่างฝีมือผู้ชำนาญ Constance ขึ้นชื่อว่าเป็นกระเป๋าที่หายากเป็นอันดับ 3 ของแบรนด์ Hermes

 

Jean-Louis Dumas : [1978-2006]

Jean-Louis Dumas

Jean-Louis Dumas

เกือบจะในทันทีหลังจากเข้ารับตำแหน่งบริษัท ฌอง-หลุยส์ ดูมาส์เริ่มเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สำหรับยุคใหม่ เขาปรับโฟกัสของบริษัทให้เหลือเพียงสามสายผลิตภัณฑ์ที่จำเป็น ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าพันคอไหม และเครื่องหนัง การเปลี่ยนทิศทางนี้สามารถเห็นได้ในปัจจุบันว่า Hermès วางตัวอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่งในพื้นที่หรูหรา นอกจากนี้เขายังเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Hermès” อีกครั้ง หลังจากที่บริษัทไม่ได้เป็นธุรกิจของพี่น้องอีกต่อไป

 

Hermes Birkin Bag : 1984

jane birkin’s original birkin bag : www.designboom.com

jane birkin’s original birkin bag : www.designboom.com

หลังจากคิดค้นการออกแบบกระเป๋าถือที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายหลายรุ่นแล้ว Hermès ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการออกแบบกระเป๋าระดับโลกอีกรุ่นหนึ่ง เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 Jean-Louis Dumas กำลังโดยสารเที่ยวบินของสายการบิน Air France จากปารีสไปยังลอนดอน บนเที่ยวบินนั้น เขาได้พบกับ นักแสดงสาวชาวอังกฤษ เจน เบอร์กิ้น (Jane Birkin)

นักแสดงสาวเริ่มระบายกับ Jean-Louis เกี่ยวกับปัญหาที่เธอมีกับกระเป๋าถือใบปัจจุบันของเธอ และการที่เธอไม่สามารถหาใบที่ทั้งปลอดภัยและสะดวกสบายในการพกพา เนื่องจากเธอเป็นผู้ที่นิยมชื่นชอบกระเป๋าสานเป็นอย่างมาก แต่เกิดอุปสรรคเมื่อต้องโดยสารบนเครื่องบินและกระเป๋าสานไม่สามารถจัดเก็บบนพื้นที่เก็บสัมภาระได้ และเกิดปัญหาสิ่งของหกหล่นตามมา

Jane Birkin : www.vogue.com

Jane Birkin : www.vogue.com

Jean-Louis มองเห็นโอกาสในการปรับปรุงและคิดอย่างรวดเร็วด้วยการออกแบบกระเป๋ารุ่นใหม่นี้ บนถุงอาเจียนบนเครื่องบิน ในปี ค.ศ. 1984 Hermès เปิดตัวดีไซน์ใหม่และเรียกมันว่ากระเป๋า Birkin ตามชื่อตัวนักแสดงคนนั้น Birkin กระเป๋าใบนี้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างมากและช่วยส่งเสริมชื่อเสียงของแบรนด์ในด้านเครื่องหนังและกระเป๋าถือสตรีจนถึงปัจจุบัน

หลังจากความสำเร็จอันน่าอัศจรรย์นี้ซึ่งครอบคลุมตลอดช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 Jean-Louis ได้ขยายธุรกิจทั่วโลกของ Hermès และรวมร้านค้าของพวกเขาเข้าด้วยกันเพื่อรวมร้านค้าที่เป็นของบริษัทมากขึ้น และลดจำนวนร้านค้าแฟรนไชส์ ทำให้สามารถควบคุมผลิตภัณฑ์ได้จากส่วนกลางมากขึ้น

เขายังเป็นหัวหน้าคนแรกของบริษัทที่นำพรสวรรค์ด้านความคิดสร้างสรรค์จากภายนอกมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในปี ค.ศ. 1997 Hermès ได้แต่งตั้ง Martin Margiela ดีไซเนอร์ที่เป็นที่ถกเถียงให้เป็นผู้นำแผนกเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และสวยงามสำหรับแบรนด์ Margiela นำ Hermès เข้าสู่วงการแฟชั่นร่วมสมัย และสร้างแบรนด์ให้เป็นกำลังสำคัญในยุคที่ดาราดังและซูเปอร์โมเดล

หลังจาก Margiela ลาออกจากการเป็นดีไซเนอร์ให้กับ Hermes ก็ได้ Jean-Paul Gaultier เข้ามาเป็นผู้กุมบังเหียนผู้จัดการฝ่ายสร้างสรรค์ต่อ ในช่วงเวลานี้ เขาหยิบกระเป๋าถือ Birkin and Kelly ที่เป็นสัญลักษณ์ในปัจจุบัน ขยายหูหิ้วและขยายรูปทรงให้กว้างขึ้นเพื่อสร้าง Shoulder Birkin and Shoulder Kelly รวมถึงกระเป๋ารุ่น Lindy

 

Hermes Lindy : 2006

Hermès Lindy ถูกออกแบบโดย Jean-Paul Gaultier เมื่อปี ค.ศ. 2006 และเปิดตัวครั้งแรกในคอลเลกชั่น Spring-Summer 2007 ของ Hermès แนวคิดการออกแบบดั้งเดิมมาจาก Frederic Vidal เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าหูหิ้วของกระเป๋าถือมักจะเป็นแบบขนานซึ่งไม่ค่อยสะดวกสบายนักเมื่อทำการคล้องแขน จึงเกิดไอเดียในการออกแบบกระเป๋ารุ่นนี้ขึ้นมา ฟังก์ชันการใช้งานและความอเนกประสงค์เป็นทั้งกระเป๋าถือและสะพายไหล่ รวมถึงรูปลักษณ์เป็นทางการน้อยกว่า Birkin และ Kelly จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ซื้อและนักสะสมกระเป๋า Hermès

ในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 2005 ฌอง หลุยส์ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2006 เขาได้มอบบริษัทให้กับแพทริค โธมัส เพื่อนสนิทในตำแหน่งซีอีโอและปิแอร์-อเล็กซิส ดูมาส์ ลูกชายของเขาเข้ามากุมบังเหียน Hermes ต่อจากเขา

 

Pierre-Alexis Dumas : [2006-2013]

Pierre-Alexis Dumas

Pierre-Alexis Dumas

ภายใต้การนำของปิแอร์-อเล็กซิส ดูมาส์ Hermès ยังคงมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับดีไซเนอร์มากมายหลายต่อหลายคนในวงการแฟชั่น และวางกลยุทธ์ในทิศทางที่สร้างสรรค์โดยรวมของบริษัทโดยรวม ในปี ค.ศ. 2010 ความคิดสร้างสรรค์ของเสื้อผ้า ready-to-wear  ได้ถูกส่งไม้ต่อให้กับ Christophe Lemaire เป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ ซึ่งนำแนวทางแบบมินิมอลมาสู่ลุค Hermès และสร้างสรรค์ความหรูหราที่เรียบง่าย เขาปรับปรุงสุนทรียศาสตร์ของ Hermès และปูทางไปสู่คลื่นลูกต่อไปในมรดกแห่งเรือนเวลา

 

Axel Dumas : [2013-Present]

<yoastmark class=

Axel Dumas หลานชายของ Jean-Louis Dumas ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานบริหารในปี 2013 ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่งของกลุ่มบริษัทด้วยการเปิดตัว Maison Hermès แห่งที่ 5 ในเซี่ยงไฮ้ในปี 2014 และการเปิดสาขาหลายแห่งทั่วโลก ในปี 2019 Hermès มาถึงโปแลนด์ โดยเปิดสาขาแรกในวอร์ซอว์

นอกจากนี้ Axel Dumas ยังขับเคลื่อนการดำเนินการตามกลยุทธ์ดิจิทัลของกลุ่ม ซึ่งนำไปสู่การออกแบบเว็บไซต์ hermes.com ใหม่ในปี 2017 เขาได้นำ Hermès เข้าสู่ยุคเทคโนโลยีใหม่ โดยสอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อมต่อ ภายใต้การนำของเขา กลุ่มกำลังก้าวขึ้นสู่ไดนามิกของทุกช่องทางภายในองค์กร

ปี 2020 Hermès นำเสนอความงามระดับเมติเยร์ลำดับที่ 16 ด้วยคอลเลกชั่นแรก Rouge Hermès ซึ่งอุทิศให้กับความงามของริมฝีปากโดยเฉพาะ ผลจากการออกแบบ วิจัยและพัฒนาเป็นเวลาห้าปี ด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นเลิศและการบูรณาการความรู้ความชำนาญที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของเรือนเวลานี้ Hermès Beauty จึงผสมผสานมาตรฐานระดับสูง ความทนทาน และความสวยงามเข้าด้วยกัน

และปี 2021 Hermès เปิดเวิร์คช็อปเครื่องหนังแห่งที่ 19 ซึ่งตั้งอยู่ที่ Guyenne (Gironde) และสร้างโรงเรียนฝึกอบรมการฝึกงาน École Hermès des Savoir-Faire (CFA) โรงเรียนให้การฝึกอบรมวิชาชีพตามการรับรองประกาศนียบัตรระดับชาติด้านงานเครื่องหนัง (CAP Maroquinerie)

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1837 ที่แบรนด์ได้ถือกำเนิด รุ่นแล้วรุ่นเล่า Hermès เดินตามสายใยสองด้าน ด้านหนึ่งคือความอุตสาหะของช่างฝีมือในเวิร์กช็อป และอีกด้านหนึ่งคือไลฟ์สไตล์ของลูกค้า Hermès ขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณแห่งเสรีภาพและความคิดสร้างสรรค์ที่ยืนยง ยังคงมีความละเอียดอ่อนและใส่ใจต่อธรรมชาติและความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

แตกต่างกับแบรนด์แฟชั่นอื่น ๆ  Hermès โดดเด่นด้วยการเป็นผู้นำและนวัตกรรม งานฝีมือที่ยอดเยี่ยม ไร้ที่ติ และสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ DNA ที่ไม่เปลี่ยนแปลงของแบรนด์นี้มีความแข็งแกร่งและไม่เปลี่ยนแปลงในความมุ่งมั่นที่จะสืบสานประเพณีแห่งความหรูหราที่แท้จริงในยุคใหม่ของโลกาภิวัตน์และทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงวิวัฒนาการของโลกแฟชั่นในปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจเลยหากแบรนด์ Hermes จะยังคงยืนหยัดแข็งแกร่งอยู่บนเส้นทางแฟชั่น มาจนถึงทุกวันนี้

รัก
xoxo

KATE