To top
2 Jul

Goyard Tote – 6 รุ่นสุดคลาสสิคที่สาวกไม่ควรพลาด

Goyard Tote อีกหนึ่งกระเป๋าคู่ใจสาวๆ ในยุคปัจจุบัน นอกจากแฟชั่นกระเป๋าใบเล็กจิ๋วที่ได้รับความนิยมอย่างมากแล้ว กระเป๋าขนาดใหญ่ หรือ “Tote Bag” ก็ถือได้ว่าอยู่ในกระแสและยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้กระเป๋าขนาดเล็กเลยทีเดียว สำหรับแบรนด์สุดหรูจากฝรั่งเศสอย่างแบรนด์ Goyard (โกยาร์) ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 220 ปีแบรนด์นี้ ก็อินเทรนด์มีกระเป๋าแนว Tote ออกมาให้สาวกได้ยลโฉมกันหลายรุ่นเลยทีเดียว จะมีรุ่นไหนน่าสนใจ แต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้จากบทความนี้เลยค่ะ

Goyard Saint Louis Tote Bag

1. Goyard Saint Louis Tote Bag

หากคุณเป็นแฟนตัวยงกระเป๋าทรง Tote ของแบรนด์ Goyard คุณจะต้องรู้จัก Saint Louis Tote เป็นอย่างดีแน่นอน ซึ่งถือได้ว่ากระเป๋ารุ่นนี้เป็นรุ่นคลาสสิคของแบรนด์ โดยชื่อของกระเป๋ามีที่มาจากพระนามของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 (King Louis IX) ของประเทศฝรั่งเศส ด้วยสไตล์การออกแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความความสสิคและหรูหรา รวมทั้งจุดเด่นด้วยกระเป๋าที่มีน้ำหนักเบา ทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูง

วัสดุที่นำมาตัดเย็บกระเป๋าเป็นวัสดุผ้าใบ Canvas ที่มีชื่อเรียกว่า “Goyardine” ซึ่งเป็นผ้าใบที่เป็นการผสมผสานระหว่างผ้าฝ้าย (Cotton), ผ้าลินิน (Linen) และ ผ้าป่าน (Hemp) ทำการเคลือบกระเป๋าด้วยเทคนิคพิเศษของโกยาร์ เพื่อความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ (Wateproof) จุดเด่นของกระเป๋ารุ่นนี้ คือ มีปากกระเป๋าที่เปิดกว้างและภายในขนาดใหญ่ มาพร้อมกับ Detachable Pochette

oyard Saint Louis Tote Bag

สำหรับ The Saint Louis Tote มีสีคลาสสิคทั้งหมด 2 สี คือ ผ้าใบสีดำขอบสีดำ (Black/Black) และ ผ้าใบสีดำขอบสีน้ำตาล (Black/Tan) อีกทั้งยังมีสีพิเศษอีก 9 สี คือ สีขาว (White), ฟ้า (Light Blue), สีเหลือง (Yellow), สีแดง (Red), สีส้ม (Orange), สีแดงเบอร์กันดี (Burgundy), สีเขียว (Green), สีเทา (Grey) และสีน้ำเงิน (Navy) รวมถึงสี Limited Edition อย่างสีชมพู (Pink) ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2008

oyard Saint Louis Tote Bag Color

Saint Louis Tote มีด้วยกัน 2 ขนาดด้วยกันคือ PM คือกระเป๋าขนาดกลาง ซึ่งเหมาะกับเป็น Everyday Use โดยมีขนาด 33 x 25 x 12 เซนติเมตร (13 x 10.5 x 5 นิ้ว) และขนาดใหญ่ GM ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระหว่างเดินทางอย่างแท้จริง โดยมีขนาด 39 x 32 x 18 เซนติเมตร (15.5 x 12.5 x 7 นิ้ว)

Goyard Saint Louis Tote Size

ในปี ค.ศ. 2018 Goyard ได้เปิดตัวขนาดของกระเป๋ารุ่น Saint Louis ออกมาเพิ่มเติมอีก 1 ขนาด โดยมีชื่อเรียกว่า The Saint Louis XXL Tote มีขนาด กว้าง 24 x สูง 16.5 นิ้ว สิ่งที่เพิ่มเติมจาก 2 รุ่นเดิม คือ ฝีเข็มที่หูกระเป๋ามีการเพิ่มเป็น 3 ชั้น จากแต่เดิมเพียง 2 ชั้น มาพร้อมกับ Detachable Pochette ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีทั้งหมด 4 สีด้วยกัน คือ ผ้าใบสีดำขอบสีดำ (Black/Black) และ ผ้าใบสีดำขอบสีน้ำตาล (Black/Tan) สีน้ำเงิน (Navy) และ สีเทา (Grey)

 

Goyard Artios Tote Bag

2. Goyard Artios Tote Bag

Goyard Artois ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในกระเป๋าตระกูล Tote ของ Goyard ซึ่งชื่อของ Artios มีที่มาจาก “Comte d’Artois” (เคานต์แห่งอาร์ตัว) อันเป็นตำแหน่งพระนามของ พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 (King Louis IX) อันเป็นพระนามที่นำไปตั้งชื่อกระเป๋าที่เรารู้จักกันดี “Saint-Louis” โดย Artios นั้นมีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับกระเป๋ารุ่นพี่ทุกประการ ทั้งความสง่างามและเรียบง่ายบนผืนผ้าใบ Goyardine อันเป็นเอกลักษณ์

Goyard Artios Tote Bag

สิ่งที่ Artois แตกต่างจากกระเป๋ารุ่น Saint-Louis นั้นคือ หูจับที่ยาวขึ้น ตัดเย็บเป็นรูปทรงให้ความมั่นคงแน่นหนา ผ้าใบ Goyardine ที่ยังคงมีน้ำหนักเบา แต่เพิ่มเติมคือความแข็งแรงและยังสามารถคงรูปทรงได้ดี นอกจากนี้ Artois เพิ่มเติมการเย็บแผ่นหนังติดตรงขอบมุมด้านล่างของกระเป๋า เพื่อช่วยป้องกันการขีดข่วน รวมถึงการติดตั้งซิปสำหรับเปิด-ปิดที่ปากกระเป๋า เพื่อป้องกันของภายในตกหล่นออกมา มาพร้อมกับช่องใส่ของขนาดใหญ่ภายในกระเป๋า

หนึ่งในรายละเอียดสำคัญและเป็นจุดเด่นของกระเป๋า Artois นั่นก็คือ การเย็บขอบของหูกระเป๋าด้านในด้วยด้ายสีแดง อันเป็นธรรมเนียมที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานของตระกูล Goyard ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 19 โดยการเย็บด้านแดงพิเศษนี้ เริ่มต้นมาจากการตัดเย็บหีบใส่ของที่ได้รับการสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษในสมัยนั้น

Goyard Artios Tote Bag

Artois มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด ภายใต้วัสดุผ้าใบ Goyardine 11 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ (Black), สีดำและสีแทน (Black & Tan), สีแดง (Red), สีส้ม (Orange), สีแดงไวน์ (Wine), สีเขียว (Green), สีฟ้า (Sky Blue), สีน้ำเงิน (Navy Blue), สีขาว (White), สีเทา (Grey) และ สีเหลือง (Yellow) มี 2 ขนาดคือ ขนาดเล็ก (Small/PM) 24 x 30 x 13 เซนติเมตร (9.5 x 12 x 5.25 นิ้ว) และ ขนาดกลาง (Medium/MM) 28 x 36.8 x 15.8 เซนติเมตร (11 x 14.5 x 6.25 นิ้ว)

 

Goyard Anjou Tote Bag

3. Goyard Anjou Tote Bag

กระเป๋ารุ่น Anjou ภายนอกจะคล้ายกับ Saint Louis Tote และได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่ความแตกต่างของกระเป๋ารุ่นนี้คือ สามารถใช้งานได้ 2 ด้านหรือที่เรียกว่า “Reversible” โดยมีด้านหนึ่งเป็นผ้าใบ Canvas Goyardine ที่รู้จักกันดี และอีกด้านหนึ่งเป็นหนังเรียบไม่มีลวดลาย ซึ่งมีสีเดียวกับผ้าใบ ความพิเศษของกระเป๋า คือ สามารถพลิกกลับด้านเพื่อใช้งานได้อย่างง่ายดายไม่ติดขัด เมื่อเทียบกับกระเป๋า Reversible แบรนด์อื่นๆ

Goyard Anjou Tote Bag

กระเป๋ามาพร้อมกับ Detachable Pochette เช่นเดียวกับรุ่น Saint Louis Tote แต่ในส่วนของ Luggage Tag นั้น จำหน่ายแยกต่างหาก โดยสามารถรีเควสเพิ่มเติมพิเศษในการเพ้นท์ตัวอักษรลงบน Tag ได้อีกด้วย โดยด้านหนึ่งของแท็กจะเป็นหนังและอีกด้านหนึ่งเป็นผ้าใบ Canvas

Goyard Anjou Tote size

Anjou มีด้วยกัน 2 ขนาดคือ GM (Grand Model) 33 x 58 x 17.7 เซนติเมตร (หรือ 13 x 23 x 7 นิ้ว) และ PM (Petit Model) 28 x 48 x 15.2 เซนติเมตร (หรือ 11 x 19 x 6 นิ้ว) มีสีคลาสสิคทั้งหมด 2 สี คือ ผ้าใบสีดำขอบสีดำ (Black/Black) และผ้าใบสีดำขอบสีน้ำตาล (Black/Tan) อีกทั้งยังมีจำหน่ายในสีพิเศษอีก 9 สี คือ สีขาว (White), สีเทา (Grey), สีแดง (Red), สีส้ม (Orange), สีเหลือง (Yellow), สีเขียว (Green), สีฟ้า (Light Blue), สีน้ำเงิน (Navy) และ สีแดงเบอร์กันดี (Burgundy)

 

Goyard Saint Louis Claire Voie Bag

4. Goyard Saint Louis Claire Voie Bag

กระเป๋ารุ่นนี้ เป็นการนำกระเป๋ารุ่นยอดฮิตอย่าง Saint Louis รุ่นดั้งเดิม มาทำการดัดแปลงปัดฝุ่น เผยโฉมครั้งแรกสำหรับ Collection Spring Summer ในปี ค.ศ. 2018 เพิ่มเติมด้วยลูกเล่นการใช้พื้นหลังเป็นสีสว่าง โดยมีลักษณะคล้ายลูกตาเล็กๆ เป็นฉากหลังให้กับผืนผ้าใบ Goyardine เพื่อความทันสมัยและสดใหม่มากยิ่งขึ้น โดยให้ชื่อรุ่นว่า “Claire-Voie” ซึ่งในภาษาฝรั่งเศส มีความหมายว่า “ลายฉลุ” อันเป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋ารุ่นนี้ โดยสีภายในกระเป๋า จะเป็นสีเดียวกับวัสดุด้านนอก และสามารถใช้สลับกันได้ทั้ง 2 ด้าน (Reversible)

Goyard Saint Louis Claire Voie Bag

การออกแบบเปรียบเสมือนการรวมร่างของกระเป๋า Saint Louis อันเป็น Iconic Tote Bag ของแบรนด์กับกระเป๋ารุ่น Anjou ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ด้าน มารวมกัน กระเป๋า Claire-Voie มาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็ก Detachable Pochette สีของด้านในกระเป๋าจะเป็นสีเดียวกับวัสดุผ้าใบด้านนอก มีด้วยกัน 2 ขนาดคือ PM ความยาว 48.2 x สูง 27.9 x ลึก 15.2 เซนติเมตร (หรือ 19 x 11 x 6 นิ้ว) และ GM ที่มีขนาดกว้าง 58.4 x ยาว 33 x ลึก 17.7 เซนติเมตร (หรือ 23 x 13 x 7 นิ้ว)

Goyard Saint Louis Claire Voie Bag

Claire-Voie มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 5 สี โดยแต่ละสีมีความหมายเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป สีฟ้า (Blue) เปรียบเสมือนความงามของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, สีเขียว (Green) หมายถึงความเขียวชะอุ่มของป่า Morvan ที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของครอบครัวโกยาร์, สีเหลือง (Yellow) เป็นตัวแทนความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ในช่วงฤดูร้อน, สีส้ม (Orange) สีสันในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน และสีแดง (Red) ซึ่งเป็นสีของหนังที่บุภายในหีบเดินทางที่ได้สั่งทำเป็นพิเศษในสมัยนั้น

 

Goyard Isabelle Bag

5. Goyard Isabelle Bag

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงรักในความงามของ Saint Louis Bag จะต้องหลงรัก Gayard Isabelle รุ่นนี้ด้วยเช่นกัน กระเป๋าที่เปรียบเสมือนการรวมร่างของกระเป๋า Saint Louis 2 ใบเข้าด้วยกัน ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ตอบรับการใช้งานที่หลากหลาย มีช่องใหญ่หลักๆ 2 ช่องด้วยกัน แต่ละช่องได้รับการออกแบบให้แยกพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายในกระเป๋าอย่างเป็นอิสระ ซึ่งสามารถตอบสนองและรองรับการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในด้านการใช้งานในเชิงธุรกิจหรือใช้เป็นกระเป๋าส่วนตัวในชีวิตประจำวัน

Goyard Isabelle Bag

ที่มาของชื่อกระเป๋ามาจากพระนามของเจ้าหญิงอิซาเบลแห่งฝรั่งเศส (Princess Isabelle of France มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1225 ถึง ค.ศ. 1270) ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 (King Louis IX) และ เคานต์แห่งอาร์ตัว (Comte d’Artois) หรือ พระเจ้าชาร์ลที่ 10 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งถือว่ากระเป๋ารุ่นนี้เปรียบเสมือนกระเป๋าที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับ Saint Louis, Artois ,Anjou และ Poitiers กึ่งกลางของกระเป๋ามีช่องกระเป๋าเล็กที่ออกแบบได้สวยงามประหนึ่งเกาะที่อยู่กึ่งกลางของลำธาร

กระเป๋าตัดเย็บจากวัสดุหนังลูกวัว (Calfskin Leather) พร้อมด้วยกระดุมแม่เหล็กสำหรับปิด-เปิดกระเป๋า ทั้งหมดถูกจัดเก็บไว้อย่างดี เรียบร้อยสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเก็บสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นกุญแจกระเป๋าเงินหรือโทรศัพท์มือถือ มาพร้อมกับ Detachable Pochette กระเป๋าใบเล็กซึ่งห้อยไว้กับหูกระเป๋า

Goyard Isabelle Bag

ตัวกระเป๋าตัดเย็บจากผืนผ้าใบอันมีชื่อ Goyardine ที่มีคุณสมบัติเบาและทนทาน กระเป๋ารุ่น Isabelle ยังคงรูปทรงและขนาดที่ไร้ที่ติตลอดเวลาโดยไม่สูญเสียความยืดหยุ่นอีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา เป็นกระเป๋าที่รวบรวมจิตวิญญาณ และคงไว้ซึ่งประเพณีของ Goyard ได้อย่างน่าอัศจรรย์

กระเป๋ารุ่น Isabelle มีจำหน่ายเพียงขนาดเดียว คือ สูง 28 x กว้าง 34 เซนติเมตร (หรือ 11 x 13.3 นิ้ว) มีขนาดเดียวกันกับกระเป๋า Saint Louis รุ่น PM แต่ขนาดของสายสะพายมีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร มีสีให้เลือกทั้งหมด 11 สีด้วยกัน โดยแบ่งเป็นสีคลาสสิคทั้งหมด 2 สี คือ ผ้าใบสีดำขอบสีดำ (Black/Black) และ ผ้าใบสีดำขอบสีน้ำตาล (Black/Tan) และสีพิเศษอีก 9 สี คือ สีขาว (White), สีเทา (Grey), สีแดง (Red), สีส้ม (Orange), สีเหลือง (Yellow), สีเขียว (Green), สีฟ้า (Light Blue), สีน้ำเงิน (Navy) และ สีแดงเบอร์กันดี (Burgundy)

 

Goyard Poitiers Bag

6. Goyard Poitiers Bag

Goyard Poitiers กระเป๋าทรง Tote รุ่นใหม่จาก Goyard ด้วยดีไซน์กระเป๋าเป็นแบบทรงสูง แต่มีหูจับที่สั้น ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าสำหรับเก็บเก้าอี้ปิคนิคแบบพับได้ (House Picnic Chairs) เป็นกระเป๋าน้องเล็กสุดในตระกูลกระเป๋าทรง Tote จาก Goyard รองลงมาจาก Saint-Louis, Anjou และ Artois

Goyard Poitiers Bag

ขนาดของกระเป๋าที่เล็ก แต่มีความยืดหยุ่นสูง จุดเด่นที่สำคัญที่สุด คือ น้ำหนักของกระเป๋าที่เบาประดุจดั่งขนนก Poitiers สื่อความหมายของคำว่า ศิลปะของแบรนด์ Goyard ออกมาได้อย่างลงตัว ความสุนทรียศาสตร์รวมถึงงานตัดเย็บอันเป็นงานฝีมือจากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ หล่อหลอมรวมกันกลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่เต็มไปด้วยสไตล์และความเก๋ไก๋เหนือกาลเวลา

สำหรับกระเป๋า Goyard Poitiers มีเพียงขนาดเดียวคือ  22 X 24 X 17 เซนติเมตร (8.6 X 9.4 X 6.7 นิ้ว) โดยวัดจากด้านบนของหูสะพาย จนถึงก้นกระเป๋า จำหน่ายในฐานะกระเป๋ารุ่น Limited Edition มีด้วยกันทั้งหมด 11 สี แบ่งเป็นสีคลาสสิคทั้งหมด 2 สี คือ ผ้าใบสีดำขอบสีดำ (Black/Black) และ ผ้าใบสีดำขอบสีน้ำตาล (Black/Tan) และสีพิเศษอีก 9 สี คือ สีขาว (White), สีเทา (Grey), สีแดง (Red), สีส้ม (Orange), สีเหลือง (Yellow), สีเขียว (Green), สีฟ้า (Light Blue), สีน้ำเงิน (Navy) และ สีแดงเบอร์กันดี (Burgundy)

 

Personalization

นอกจากความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋าทรง Tote แล้ว ทาง Goyard ยังมีบริการพิเศษสำหรับลูกค้าคนพิเศษอีกด้วย นั่นคือการเพ้นท์สีและตัวอักษรลงบนกระเป๋า Saint Louis และ Anjou Tote Bag ด้วยตัวเลือกสีที่หลากหลาย โดยกำหนดรายละเอียดได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ทั้งลายน้ำ อักษรย่อของชื่อ (Monogramming), ลายแถบ (Stripes) และดาว (Stars)

โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $150 คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 4,800 บาท สำหรับตัวอักษร 6 ตัว $150 หรือราวๆ 4,800 บาทเช่นเดียวกัน สำหรับลายแถบ และ $600 สำหรับรูปดาวหรือแบบอื่นตามแต่ที่ลูกค้าแสดงความจำนงค์ โดยบริการพิเศษทั้งหมดนี้ จะทำการระบายสีลงบนผ้าใบด้วยมือทั้งหมด

ปัจจุบัน มี 3 สาขาที่เปิดให้บริการในส่วนพิเศษนี้ คือ สาขา ซานฟรานซิสโก (San Francisco), โตเกียว (Tokyo) และ ฝรั่งเศส (France) นั่นหมายความว่า กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่เริ่มจนสำเร็จลุล่วงจะใช้เวลาประมาณ 3-4 อาทิตย์ สำหรับหนึ่งชิ้นงาน

Goyard Tote

คำว่า Tote Bag มีความหมายตรงตัว คือ “To Carry” ความน่าสนใจของกระเป๋า Tote Bag คือรูปแบบของกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่ สามารถสะพายได้เข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว จุดเด่นของกระเป๋า Tote จาก Goyard คือ น้ำหนักเบา แข็งแรง และสามารถคงรูปทรงได้อย่างดี

ผ้าใบ Goyardine อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1892 ภายใต้เฉดสีต่างๆ ถึง 11 เฉดสี เอกลักษณ์ที่ถูกสานต่อมานานกว่า 220 ปี รวมถึงราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับคุณภาพและกระบวนการผลิต จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบมากๆ สำหรับสาวๆ ที่กำลังมองหากระเป๋าคู่ใจสักใบ

รัก
xoxo

 

KATE