To top
20 Mar

Dolce & Gabbana ของแท้ – เปิดเคล็ดลับ 9 วิธีดูกระเป๋า

ในช่วงระยะหลัง กระเป๋า Dolce & Gabbana มีความโดดเด่นทางด้านดีไซน์อย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ทำให้ราคาในการ Resell นั้นพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีการทำกระเป๋าลอกเลียนแบบแบรนด์ Dolce & Gabbana ออกมากันเกลื่อนท้องตลาด ดังนั้น เราจึงได้รวบรวม 9 วิธีสังเกตกระเป๋า Dolce & Gabbana ของแท้ เพื่อที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณผู้หญิง ลองนำไปใช้สังเกตง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

 

1. Ring

ห่วง หรือ วงแหวนของ Dolce & Gabbana มักจะมีรูปร่างกลม หรือโค้งมนเท่ากันทุกด้าน ไม่มีรอยต่อ และไม่มีช่องว่าง ซึ่งในสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนใหญ่จะใช้วงแหวนที่เป็นตัว C โดยจะมีรอยต่อช่องว่างระหว่างห่วง ซึ่งถ้าหากกระเป๋าของคุณเป็นวงแหวนตัว C นั่นแปลว่ากระเป๋าของใบนี้เป็นสินค้าของปลอม

ชิ้นส่วนวงแหวนของกระเป๋า Dolce & Gabbana

ชิ้นส่วนวงแหวนของกระเป๋า Dolce & Gabbana

 

2. Plastic

พลาสติกห่อหุ้มหูกระเป๋า และสายสะพาย Dolce & Gabbana จะเป็นพลาสติกสีขาว หากพลาสติกที่ห่อหุ้มเป็นพลาสติกใส นั่นแปลว่ากระเป๋าใบนี้อาจจะเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ได้ ไม่ใช่ กระเป๋า Dolce & Gabbana ของแท้

พลาสติกห่อหุ้มหูกระเป๋า Doclce & Gabbana

พลาสติกห่อหุ้มหูกระเป๋า Dolce & Gabbana

 

3. Metal Plate

แผ่นโลหะที่อยู่บนกระเป๋า Dolce & Gabbana ตัวล็อคกระเป๋าที่เป็นแม่เหล็ก และชิ้นส่วนโลหะต่างๆ จะมีฟิล์มสีขาวหรือสีฟ้า ติดสำหรับกันรอยอยู่ ซึ่งขนาดของฟิล์มจะมีความเหมาะสมกับขนาดของ Metal Plate จุดสังเกตจะมีการสลักโลโก้ตัวอักษร DOLCE & GABBANA และ MADE IN ITALY อยู่บน Metal Plate ด้วย

ฟิล์มที่ติดบนแผ่นโลหะของกระเป๋า DOLCE & GABBANA

ฟิล์มที่ติดบนแผ่นโลหะของกระเป๋า Dolce & Gabbana

 

4. Engraving

กระเป๋า Dolce & Gabbana ของแท้นั้น จะมีแผ่นโลหะด้านนอกที่สลักโลโก้ตัวอักษรคำว่า DOLCE & GABBANA MILANO ITALIA (ตัวพิมพ์ใหญ่) การแกะสลักนั้นมีความละเอียดอ่อน สะอาด อ่านง่าย และตัวแผ่นโลหะที่ถูกสลักนั้นจะเรียบ มีความเงางาม ของเลียนแบบ จะแกะสลักตัวอักษรที่ลึกกว่า หนากว่า หรืออาจจะใช้คำอื่นๆ ด้วย เช่น MADE IN ITALY ซึ่งไม่ใช่คำที่ถูกนำมาใช้

แผ่นโลหะด้านนอกในสินค้าของแท้จะพิมพ์คำว่า DOLCE & GABBANA , MILANO และ ITALIA

แผ่นโลหะที่สลักด้วยโลโก้ของ DOLCE & GABBANA

แผ่นโลหะที่สลักด้วยโลโก้ของ Dolce & Gabbana

 

ส่วนด้านในกระเป๋านั้นจะมีแผ่นหนัง หรืออาจเป็น Metal Plate ในกระเป๋าบางรุ่น ซึ่งจะมีสีเดียวกันกับด้านนอก และจะสลักคำว่า DOLCE & GABBANA MADE IN ITALY อยู่บนแผ่นป้ายนั้น จุดสังเกตคือ ตัวอักษร “&” มีขนาดเล็กกว่าตัวอักษรตัวอื่นในชื่อแบรนด์ และมีความสูงเพียงขีดตรงกลางของตัวอักษร E ในกระเป๋ารุ่นเก่าๆ ป้ายพวกนี้อาจจะทำจากหนัง ไม่ใช่โลหะ ในคอลเลคชั่น Fall 2017-2018 แผ่นโลหะพวกนี้ถูกแทนที่ด้วยการพิมพ์ DOLCE & GABBANA MADE IN ITALY ลงบนหนังส่วนที่เป็นช่องใส่กระจกด้านในกระเป๋า

ด้านในกระเป๋านั้นจะมีแผ่นหนัง หรือ Metal Plate จะใช้คำว่า DOLCE & GABBANA , MADE IN ITALY

แผ่นป้ายภายในกระเป๋า DOLCE & GABBANA

แผ่นป้ายภายในกระเป๋า Dolce & Gabbana

นอกจากการแกะสลักบนแผ่น Metal Plate และแผ่นหนังแล้ว ยังมีการแกะสลักบนชิ้นส่วนโลหะอื่นๆ ด้วย เช่น ตัวคล้องสายกระเป๋า หมุดบนกระเป๋า หัวเข็มขัดสำหรับปรับสายกระเป๋า และซิป จุดสังเกตคือซิปที่ใช้ในกระเป๋า Dolce & Gabbana เป็นซิปของแบรนด์ YKK

การสลักชื่อบนชิ้นส่วนของกระเป๋า DOLCE & GABBANA

การสลักชื่อแบรนด์บนชิ้นส่วนของกระเป๋า Dolce & Gabbana

 

5. Material

วัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า Dolce & Gabbana เป็นหนังแท้เป็นวัสดุคุณภาพสูง ส่วนใหญ่กระเป๋าจะทำจาก Lambskin Calfskin และ Nappa Leather ส่วนด้านในกระเป๋าบุด้วยผ้าฝ้ายซึ่งส่วนใหญ่มักมีสีดำหรือลายเสือดาว ในกระเป๋า Limited Edition บางรุ่นผ้าด้านในกระเป๋าอาจจะเป็นลายดอกไม้ หรือลายจุด

ด้านในกระเป๋า DOLCE & GABBANA

ด้านในกระเป๋า Dolce & Gabbana

 

6. Stitching

กระเป๋า Dolce & Gabbana ใช้การเย็บอย่างพิถีพิถัน รอยเย็บที่แน่นไม่มีการหลุดรุ่ยของด้าย ฝีเข็มตรงเป็นระเบียบ รอยเย็บจะเป็นแพทเทิร์นเดียวกันทั้งกระเป๋า หูกระเป๋าเย็บติดกับตัวกระเป๋าได้แนบเนียน และฝีเข็มรอบๆ โลโก้จะเป็นระเบียบ เรียบร้อย ไม่เอียง

ฝีเข็มที่ใช้ในการเย็บกระเป๋า DOLCE & GABBANA

ฝีเข็มที่ใช้ในการเย็บกระเป๋า Dolce & Gabbana

 

7. Card and Envelope

กระเป๋า Dolce & Gabbana ของแท้จะต้องมาพร้อมกับ Authenticity Card สีดำที่ดูคล้ายกับบัตรเครดิต และมีโฮโลแกรมสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งมีตัวอักษร DOLCE & GABBANA ตัวพิมพ์ใหญ่เป็นลายอยู่ในสี่เหลี่ยมโฮโลแกรมนั้นด้วย ส่วนซองจดหมายทำขึ้นจากกระดาษชนิดพิเศษที่มีราคาสูง กระดาษจะไม่มีความเรียบ มีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย ช่องเปิดจะอยู่ด้านข้างซอง ซึ่งจะแตกต่างจากซองจดหมายโดยทั่วๆ ไป

 

8. Mirror

กระเป๋าส่วนใหญ่ของ Dolce & Gabbana มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีช่องสำหรับใส่กระจกที่มาพร้อมกับกระจก โดยกระจกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ

  1. โลหะทรงกลมที่มีกระจกสะท้อนแสง มักถูกนำไปใช้ในกระเป๋าหนัง กระเป๋าแฟนซี และกล่องไม้
  2. แผ่นโลหะแข็ง ซึ่งไม่มีกระจกสะท้อนแสง แต่เป็นโลหะขัดมันที่สะท้อนภาพได้ดีราวกับกระจก ถูกนำไปใช้กับกระเป๋าผ้าแคนวาส ซึ่งทั้งสองประเภทนั้นจะโลโก้มีตัวอักษร DOLCE & GABBANA สลักอยู่ด้านหลัง

กระจกทั้งสองแบบของ Dolce & Gabbana

ปัจจุบันกระเป๋าของ Dolce & Gabbana ไม่ได้มีกระจกมาให้เช่นเดิมแล้ว แต่ภายในกระเป๋ายังคงมีช่องสำหรับใส่กระจกอยู่ โดยเริ่มทำมาตั้งแต่คอลเลคชั่น Spring-Summer 2018

 

9. Dust Bag

ถุงผ้ากันฝุ่นของแบรนด์ Dolce & Gabbana ทำจากผ้าฝ้าย ถุงผ้ามีสีดำ สายหูรูดทำด้วยริบบิ้นสองเส้น ชื่อแบรนด์ DOLCE & GABBANA ถูกปักบนริบบิ้นที่เย็บมุมสองด้าน เย็บติดตรงกลางของถุงผ้า และถุงผ้าแบบเก่าจะเป็นโลโก้ตัวอักษรสีขาวพิมพ์ลงบนถุงผ้าสีดำ

จุดสังเกตทั้ง 9 จุดนี้ เป็นเทคนิคพื้นฐานในการตรวจสอบความถูกต้องของ กระเป๋า Dolce & Gabbana ของแท้ ความหรูหราของ Dolce & Gabbana นั้นแสดงออกโดยการดีไซน์ที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไม่มีวันลอกเลียนแบบจุดแข็งนี้ได้

แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบอาจเป็นเรื่องที่ต้องคิดเยอะสำหรับสาวๆ หลายคน ดังนั้นหากใครที่สะดวกใจที่จะซื้อสินค้าทางออนไลน์ หรือสินค้ามือสองตามรา้นค้าทั่วไป อย่าลืมนำวิธีสังเกตที่เราได้รวบรวมมาให้ไปใช้เป็นตัวช่วยในการคัดกรองด้วยนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับสาวๆ ที่รักแบรนด์เนมทุกคน

รัก
xoxo

 

Wariya Pokawaranon