แบรนด์ Chanel ได้ถือกำเนิดจากสตรีชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า Coco Chanel เป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีมาประมาณ 110 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่อีกแบรนด์เลยก็ว่าได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นกระเป๋าที่หมายปองของสาวๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ใครต่อหลายคนใฝ่ฝันอยากจะครอบครองไว้สักใบ จุดเด่นของ Gabrielle นั้นคือ กระเป๋าสะพายสายหนังประดับโซ่โลหะ ที่มาพร้อมกับหนังลายควิลต์ สื่อถึง ความขบถเล็กๆ ของ Coco Chanel รุ่นนี้ยังสามารถปรับสาย และเปลี่ยนการสะพายได้หลากหลายรูปแบบ ดังนั้นในวันนี้ เราจะพาผู้อ่านเจาะลึกถึงรายละเอียด Chanel Gabrielle Bag – Anatomy of Bag ว่ามีองค์ประกอบและดีเทลอย่างไรบ้าง
Front Design : ด้านหน้าของกระเป๋า
- Leather : วัสดุที่นิยมใช้ผลิต คือ หนังลูกวัว (Calfskin) ที่มีลักษณะเป็น หนังลูกวัวย่น และหนังลูกวัวเรียบ มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ลายข้าวหลามตัด (Diamond-Patterned)
- Diamond-Patterned : การเย็บลายข้าวหลามตัดนั้น รอยต่อจะต้องมีการเย็บอย่างบรรจง ลายข้าวหลามตัด ต้องบรรจบกันพอดี ไม่ว่าในขณะที่ เปิด หรือปิดกระเป๋า
- Iconic : โลหะของกระเป๋านั้น มีทั้งโลหะสีเงิน สีดำ และทอง เนื้อโลหะไม่เงา ลักษณะตัว C ไขว้กัน ที่ได้รับการออกแบบโดย คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld) เมื่อปี ค.ศ. 1980
- Stitching : การตัดเย็บของกระเป๋าเท่ากันโดยตลอด มีความสมบูรณ์แบบในแบบของ Chanel โดยในแต่ละด้านของลายนั้น ตัดเย็บ 11 ฝีเข็ม เพื่อความสวยงามของ ลายข้าวหลามตัด
Inside Design : ด้านในของกระเป๋า
- The Bag Inside : มีช่องขนาดใหญ่ 1 ช่อง และมีช่องเล็กด้านในอีก 1 ช่อง เพื่อใส่บัตรเครดิต หรือของจิปาถะต่างๆ อาทิเช่น ตลับแป้ง ลิปสติก เป็นต้น
- The Zippered Compartment : ช่องใหญ่ 1 ช่องมีซิปเพื่อป้องกันของตกหล่น และมีช่องเล็กมีซิปเช่นกัน เพื่อปกป้องสิ่งของไม่ให้รวมกัน เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- Interior Color : เนื้อผ้าด้านในนั้น มี 2 สี คือ สีแดง และสีตามสีของหนังที่นำมาทำกระเป๋า ไม่มีทางที่จะสีอ่อน หรือเข้มกว่าอย่างแน่นอน เนื่องด้วยกระเป๋าต้องสีเท่ากัน จึงจะเป็นกระเป๋าที่สมบูรณ์แบบ
Back Design : ด้านหลังของกระเป๋า
- Jewelry-Like Polished Chain : สายสะพายโซ่ ที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Chanel จะเป็นสีเงิน สีทอง และสีดำ ตามคอลเล็กชั่นที่ผลิต กรณีสายโซ่สีทอง จะทำมาจากทองคำประมาณ 22-24K
- Leather Interwoven Beteen Chain : การถักร้อยสายหนังระหว่างข้อต่อของโซ่ สิ่งนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์แบรนด์ เช่นเดียวกัน โดยการถักร้อยนั้น ต้องใช้หนังชั้นเดียวถักร้อยระหว่างโซ่อย่างเป็นระเบียบ
- The Back : ฝั่งด้านหลังของกระเป๋านั้น เรียบเนียนเหมือนฝั่งด้านหน้า ไม่มีช่องไว้ใส่ของ หรือบัตรเครดิต
Side Design : ด้านข้างของกระเป๋า
- The Part Of Side : ด้านข้างของกระเป๋านั้น จะมีโครงสร้างที่แข็งแรง เนื่องจากกระเป๋าต้องตั้งตรง ไม่พับ เพื่อรูปร่างกระเป๋าที่สมบูรณ์
- Diamond-Patterned : รูปแบบการเย็บยังคงเป็นลายเอกลักษณ์อย่างลายข้าวหลามตัด จะต้องมีความกว้าง ยาวเสมอกัน และสานต่อกันทั่วกระเป๋าทั้งใบ
- The Shape : กระเป๋าต้องตั้งตรงมีความสมดุลตามแบบฉบับของแบรนด์ Chanel กระเป๋าต้อง ไม่บิดเบี้ยว หรือเอียงเอนไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งเด็ดขาด
Bottom Design : ด้านล่างของกระเป๋า
- Bottom : ในส่วนเรื่องของฐานนั้น ต้องยาว และมีความโค้งมน รับกับทรงของกระเป๋า เพื่อความสวยงาม และสามารถรองรับกระเป๋าได้แบบไม่มีผิดรูปทรง และฐานจะไม่มีลวดลายใดๆ
Size of Chanel Gabrielle Bag : ขนาดของกระเป๋า Chanel Gabrielle
- Small Hobo ขนาด : ยาว 15 x สูง 20 x ลึก 8 ซม. (ยาว 5.9 x สูง 7.8 x ลึก 3.1 นิ้ว)
- Hobo Bag ขนาด : ยาว 20 x สูง 27 x ลึก 8 ซม. (ยาว 7.8 x สูง 10.6 x ลึก 3.1 นิ้ว)
- Large Hobo ขนาด : ยาว 21 x สูง 28 x ลึก 10 ซม. (ยาว 8.2 x สูง 10.9 x ลึก 3.9 นิ้ว)
หลังจากเราได้เห็น Chanel Gabrielle Bag – Anatomy of Bag ในข้างต้นแล้ว จะเห็นว่ากระเป๋า Gabrielle นั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทำให้คนที่พบเห็นอยากมีไว้ในครอบครองสักใบ ด้วยดีไซน์เรียบหรู ดูแพง จึงทำให้เป็นที่หมายตาของสาวๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ชัดเจนว่ารายละเอียดกระเป๋าของ Gabrielle Bag นั้น มีความสวยงามปราณีต ใส่ใจในทุกขั้นตอน สมกับที่เป็นแบรนด์ชั้นนำอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งหากได้ตัดสินใจซื้อไปแล้ว แน่นอนว่าจะไม่ผิดหวัง ทั้งให้คุณค่าด้านราคาและการลงทุน และยังให้คุณค่าทางจิตใจเสมือนของสะสม Masterpiece อีกด้วย
รัก
xoxo