Bao Bao Bag หนึ่งในกระเป๋าที่มีดีไซน์แหวกแนว ภายใต้แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น โดย Issey Miyake ซึ่งเราอาจคุ้นตากันดี กับดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวกระเป๋าถูกตกแต่งด้วยแผ่นไวนิล (Polyvinyl) รูปสามเหลี่ยม นำมาต่อกันบนตัวผ้าตาข่ายให้ดูสวยงามดูมีมิติ สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้ตามสัมภาระที่ใส่ลงไปในกระเป๋า เฉกเช่นจินตนาการของมนุษย์ที่สามารถสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างไร้กฏเกณฑ์ตายตัวและไม่มีขีดจำกัด
รวมถึงตัวกระเป๋า ยังมีการพัฒนาดีไซน์และรูปแบบใหม่ ๆ รวมถึงสีสันที่หลากหลายอยู่ตลอดเวลา ในบทความนี้ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกระเป๋า Bao Bao ทั้ง 9 รุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จะมีรุ่นใดบ้างนั้น ก่อนอื่นเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย เราไปทำความรู้จักประวัติของกระเป๋ารุ่นนี้กันเล็กน้อย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาติดตามไปพร้อมกันค่ะ
Bao Bao Bag
อิซเซ มิยะเกะ (Issey Miyake) ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Issey Miyake ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากการออกแบบเสื้อผ้าที่ผสมผสานแนวคิดแบบตะวันตกกับเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ร่วมในการออกแบบ ก่อเกิดผ้าแบบใหม่ ที่รู้จักกันในชื่อ ผ้าพลีต “Pleats” ซึ่งมีลักษณะอัดจีบ ดูแลรักษาง่าย มีความยืดหยุ่น อีกทั้งเนื้อผ้าที่ค่อนข้างยับยาก ทำให้เกิดความสบายในการสวมใส่ และได้รับความนิยมอย่างมาก จนมีการแยกแบรนด์ออกมาเพื่อการผลิตเสื้อผ้าโดยเฉพาะ โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Pleats Please Issey Miyake
โดยคอนเซ๊ปต์ของแบรนด์นี้ คือ รูปแบบที่ทันสมัย รวมถึงสามารถใช้ได้ในหลายโอกาส อีกทั้งยังมีไลน์การผลิตสินค้าอื่น ๆ ที่มีดีไซน์แปลกตา ตามแบบฉบับของมิยะเกะ เช่น นาฬิกา เสื้อผ้าแบบอื่น ๆ น้ำหอม L’Eau d’Issey และที่ขาดไม่ได้เลยในวงการแฟชั่นคือ กระเป๋าถือ หนึ่งในนั้นคือ Bao Bao ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นของ Pleats Please Issey Miyake นั่นเอง
แรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋า Bao Bao นี้ มาจากสถาปัตยกรรมอันเลื่องชื่อนามว่า Guggenheim Mesuem หรือ พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮน์ ตั้งอยู่ที่เมือง Bilbao (บิลบาโอ) ในประเทศสเปน ซึ่งเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์งานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ให้เกิดขึ้นในวงการออกแบบ “Bilbao” จึงได้ถือกำเนิดขึ้นและออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี ค.ศ. 2000 โดยเป็นผลงานการออกแบบของ ฮิคารุ มัตสึมุระ (Hikaru Matsumura) นักออกแบบของแบรนด์
เราทราบประวัติคร่าว ๆ กันแล้ว มาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากทราบกันแล้วว่า กระเป๋า Bao Bao รุ่นใดบ้างที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากใน ค.ศ. นี้ เรามาทำความรู้จักกับกระเป๋าทั้ง 9 รุ่นกันเลยดีกว่าค่ะ
Bao Bao Lucent Frost Crossbody
กระเป๋าขนาดเล็ก เอาใจสายมินิมอล ด้วยขนาด 6.6 x 9 นิ้ว การออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย ตัดเย็บจากวัสดุ Vinyl Chloride Resin (พลาสติกชนิดหนึ่ง) และ โพลีเอสเตอร์ (Polyester) ให้สัมผัสที่นุ่ม และเป็นมันวาว มาพร้อมกับสายไนลอน ที่สามารถใช้งานได้ 2 แบบ ทั้งสะพายข้างหรือ Crossbody
โดยสายสะพาย สามารถปรับขนาดยาวสั้นได้ตามความเหมาะสม น้ำหนักเบาเพียง 150 กรัม พร้อมด้วยสีสันที่มีให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว สีเทา สีเหลือง สีฟ้า และสีม่วง ใช้ใส่กระเป๋าสตางค์หรือสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ ได้ เหมาะกับชีวิตประจำวันที่ต้องการความคล่องตัว ราคาค่าตัวอยู่ที่ 12,316 บาท
Bao Bao Daypack
กระเป๋า Backpack จาก ซีรีส์ Kuro ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นสำหรับสุภาพบุรุษ ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2017 คำว่า “Kuro” หมายถึง สีดำ หรือ ความเป็นมืออาชีพ ในภาษาญี่ปุ่น ด้วยสไตล์การออกแบบที่เป็น Unisex สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ในการนำแผ่นพลาสติกรูปทรงสามเหลี่ยม มาประกอบกันบนผ้า Cotton จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกระเป๋าเป้ ที่มีรูปแบบไม่เหมือนใคร
ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มองหาไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมทั้งแฟชั่น ศิลปะและการออกแบบที่เป็นธรรมชาติ มาพร้อมกับขนาด 16.9 x 13.4 x 7.1 นิ้ว น้ำหนักเบาเพียง 640 กรัม ปากกระเป๋ากว้าง เปิด-ปิดง่าย มีช่องใส่ของทั้งด้านในและด้านหน้า เพื่อการจัดสรรพื้นที่ในกระเป๋าได้ตามต้องการ ราคาค่าตัวอยู่ที่ 25,738 บาท
Bao Bao Wring Crossbody
กระเป๋าทรงขนมจีบ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงมาทุกยุคทุกสมัย ด้วยขนาด 9.2 x 6.1 x 3.1 นิ้ว พร้อมคุณสมบัติการใช้งานที่ครบครัน น้ำหนักเบาเพียง 340 กรัม ด้านบนเป็นแบบรูดเปิด-ปิดอัตโนมัติ จากแรงถ่วง เมื่อมีการบรรจุสัมภาระ ภายในมีช่องซิปสำหรับใส่ของ สายของกระเป๋าสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ได้ในหลาย ๆ โอกาส รวมทั้งเข้ากันได้กับทุกสไตล์การแต่งตัว มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ ขาว ดำ น้ำเงิน ราคาอยู่ที่ 24,001 บาท
Bao Bao Rock Matte Handbag
ความพิเศษของกระเป๋ารุ่นนี้ อยู่ที่มีซิปเปิด-ปิดด้านบน สามารถพับมุมรวมถึงบริเวณด้านล่างของกระเป๋าเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูทำให้กระเป๋ามีความแข็งแรง อีกทั้งยังสามารถวางกระเป๋าในแนวตั้งได้อีกด้วย ด้านในมีช่องใส่ของแยกเป็น 3 ช่อง ช่วยให้คุณได้จัดข้าวของในกระเป๋าได้อย่างเป็นระเบียบ
ด้วยน้ำหนักที่เบา เพียง 540 กรับ มาพร้อมกับขนาด 11.4 x 16.1 x 4.5 นิ้ว ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เหมาะกับการเป็นกระเป๋าคู่ใจไปทำงาน ใช้ในชีวิตในประจำวัน หรือเป็นเพื่อนในการเดินทางได้เป็นอย่างดี สำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ สนนราคาอยู่ที่ 28,264 บาท
Bao Bao Prism Gloss Pouch
จุดเด่นของกระเป๋ารุ่นนี้ นอกเหนือจากการนำแผ่นสามเหลี่ยมมาเรียงต่อกัน นั่นคือความมันวาวที่ปรากฏลงบนแผ่นพลาสติกทั่วทั้งใบ ซึ่งเกิดจากการเคลือบเงาลงไป อันเป็นที่มาของชื่อรุ่น “Gloss” อีกทั้งยังมีหลากหลายสีสันให้เลือกมากมาย ตั้งแต่สีสว่างสดใสที่เข้ากับการแต่งตัวในวันสบาย ๆ ไปจนถึงสีเข้มที่เป็นทางการ สำหรับการทำงาน เป็นกระเป๋าที่เอาใจสายมินิมอลหัวใจ CUTE อย่างแท้จริง
ตัวกระเป๋า มีขนาด 4.5 x 7.6 x 3.1 นิ้ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการความคล่องตัว ใส่ของใช้กระจุกกระจิกขนาดเล็ก ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียงแค่ 90 กรัมเท่านั้น มีให้เลือกทั้งหมด 5 สีด้วยกัน คือ สีเทา สีชมพู สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำเงิน ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,421 บาท
Bao Bao Prism Tote
สำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ มีความคล้ายคลึงกับกระเป๋าซีรีส์ Lucent เพียงแต่ว่า พลาสติกสามเหลี่ยมที่นำมาประดับลงบนตัวกระเป๋านั้น มีขนาดที่เล็กกว่า มีการเคลือบเงาแบบพิเศษ สร้างความระยิบระยับเป็นประกายละเอียดอ่อนบนตัวกระเป๋าเปรียบดั่งอัญมณี สื่อถึงความสงบและความเรียบง่ายได้เป็นอย่างดี สามารถเข้าได้กับทุกสไตล์การแต่งตัว
ขนาดตัวกระเป๋าอยู่ที่ 15.7 x 15.7 นิ้ว น้ำหนัก 400 กรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใส่งานเอกสาร หรือสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ภายในมีช่องใส่ของขนาดเล็ก 1 ช่อง ตัวสายสามารถปรับขนาดความสั้นยาวได้ 2 ระดับ ให้เลือกปรับได้ตามความเหมาะสม สำหรับราคาค่าตัวของรุ่นนี้อยู่ที่ 18,790 บาท
Bao Bao Lucent Crossbody
กระเป๋าสะพายไหล่จากซีรีส์ Lucent สุดเรียบง่าย สไตล์มินิมอล ด้วยรูปทรงศิลปะที่ชวนให้จินตนาการถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างอันไร้ขีดจำกัด เมื่อมีการบรรจุสัมภาระด้านใน มาพร้อมกับสายไนลอนที่สามารถปรับความยาวได้ ด้านในมีช่องขนาดเล็ก 1 ช่อง ด้วยขนาดพอเหมาะ 9 x 13.4 นิ้ว และน้ำหนักเพียง 250 กรัม รวมถึงสีสันเรียบง่าย ที่สามารถเข้ากันได้กับทุกฤดูกาล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นเพื่อนคู่กายสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน สนนราคาอยู่ที่ 15,632 บาท
Bao Bao Platinum Mermaid Tote
กระเป๋า Tote รุ่นยอดนิยม ความสวยงามของการออกแบบที่ผสมผสานสองวัสดุที่มีความแตกต่างกัน โดยด้านบนเป็นวัสดุพื้นผิวกระจก ในส่วนของด้านล่างเป็นวัสดุที่มีความมันวาว ตามแบบฉบับซีรีส์ Platinum ด้วยขนาดกระทัดรัด 10.8 x 10.8 นิ้ว กับน้ำหนักเพียง 100 กรัม ถือว่าเป็นกระเป๋า Tote ขนาดมินิที่เหมาะกับการพกพาสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน สายสะพายไหล่ สามารถปรับได้ 2 ระดับ ด้านในมีช่องใส่ของ 1 ช่อง
เป็นงานดีไซน์ที่เน้นการเล่นสีที่ดูสนุกสนาน เปรียบเสมือนได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางบรรยากาศงานพาเหรดที่เต็มไปด้วยสีสันและท่วงทำนองที่สร้างชีวิตชีวา มีทั้งหมด 4 สี คือ สีแดง/ส้ม , สีน้ำตาล/ดำ , สีฟ้า/เขียว และ สีขาว/ทอง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่เบื่อความจำเจและเลิกยึดติดกับคำว่า กระเป๋าจะต้องมีเพียงแค่สี ๆ เดียว สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 29,054 บาท
Bao Bao Lucent Tote
มาถึงกระเป๋ารุ่นที่ถือได้ว่า เป็นรุ่นสร้างชื่อของกระเป๋าแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ กับ รุ่น Lucent Tote ซึ่งเป็นกระเป๋ารุ่นแรก ๆ ของแบรนด์ที่ถูกจำหน่ายออกมา และได้รับความนิยมสูงสุด เรียกได้ว่า เป็น MUST HAVE ITEM สำหรับใครที่เริ่มทำความรู้จักกับแบรนด์เลยทีเดียว กับดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย ลักษณะแบนราบ แต่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ไม่จำกัด เมื่อมีการใส่สัมภาระลงภายในกระเป๋า เป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ที่งดงาม ราวกับภาพแกะสลักเลยก็ว่าได้
ขนาดของกระเป๋าอยู่ที่ 13.3 x 13.3 นิ้ว น้ำหนัก 380 กรัม สายสะพายไหล่สามารถปรับได้ 2 ระดับ ด้านในมีช่องซิปสำหรับใส่ของ 1 ช่อง สามารถใช้เป็นกระเป๋าคู่ใจในวันสบาย ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเป็นกระเป๋าใส่เอกสารสำหรับทำงานก็เก๋ไปอีกแบบ ราคาของกระเป๋ารุ่นนี้อยู่ที่ 13,422 บาท
จากความฮอตฮิตจนฉุดไม่อยู่ของกระเป๋า Bao Bao ซึ่งไม่ว่าจะดีไซน์ออกมากี่รุ่น ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากสาวกแฟชั่น โดยหลายต่อหลายคน ที่ยังคงเลือก Bao Bao ให้เป็น ITEM คู่ใจ แต่งแต้มสีสันและความมีชีวิตชีวา เสริมทุกสไตล์การแต่งตัวให้สมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ลายพิมพ์รูปทรงเลขาคณิตไม่ซ้ำแบบใคร เปรียบเสมือนการพกพางานศิลปะล้ำค่าไปด้วยทุกที่ กับรูปทรง ที่สะท้อนรสนิยมของโลกสมัยใหม่ออกมาได้อย่างไม่ตกยุค
และด้วยเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครนี่เอง ที่ทำให้ Bao Bao Bag กลายเป็นกระเป๋าในดวงใจของผู้คนทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่เข้ากันได้กับทุกสไตล์การแต่งตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นสายหวาน สายแฟชั่น สายสตรีท สายลุย หรือสายเท่ ที่สำคัญยังขยันเติมลูกเล่นต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ก่อเกิดผลลัพธ์เป็น Everyday Bag ที่พร้อมตอบโจทย์ให้กับโลกแฟชั่นปัจจุบันที่มีการหมุนเวียนและมีการพัฒนาต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
รัก
xoxo