sub 1439 – 10 Things To Know About The Iconic Birkin Bag เชื่อว่าในยุคนี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักกระเป๋าสุดยอดอิทธิพลอย่าง Hermes Birkin ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นเจ้าของยากมากที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก ยังไม่รวมถึงมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเป็นเจ้าของมัน

Hermès Birkin เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและความพิเศษเฉพาะตัวในโลกแห่งแฟชั่น เรื่องราวกระเป๋า Birkin ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1984 เรื่องราวมนต์ขลังของสุดยอดกระเป๋า ที่มิใช่เป็นเพียงสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น แต่มันยังเป็นสินทรัพย์ ที่สามารถนำไปลงทุน และยังมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นหรือแม้แต่การลงทุนในทองคำเสียอีก KATEXOXO จะพาไปพบกับ 10 ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Hermes Birkin

 

1. The Birkin

เรื่องราวของกระเป๋าแห่งประวัติศาสตร์รุ่นนี้ เริ่มต้นขี้นเมื่อปี ค.ศ. 1984 บนเที่ยวบินจากปารีสไปลอนดอน โดยสายการบิน Air France การพบกันระหว่าง นักแสดงและนักร้อง Jane Birkin กับ Jean-Louis Dumas ผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์ Hermes ในขณะนั้น

เป็นที่ทราบกันดีกว่า เจนเป็นคนที่นิยมพกพาตะกร้าสานติดตัวไปไหนต่อไหนเป็นประจำ เจนพยายามที่จะจัดเก็บตะกร้าสานของเธอ บนที่เก็บของเหนือศีรษะ แต่ด้วยความเทอะทะของตะกร้าที่มีขนาดไม่พอเหมาะกับช่องเก็บของ ทำให้เกิดความผิดพลาด ตะกร้าสานของเธอฝาเปิด พลิกคว่ำ ตกลงบนพื้น ข้าวของกระจัดกระจาย ฌอง หลุยส์ สังเกตเห็นดังนั้น เขาจึงเสนอที่จะออกแบบกระเป๋าแบบใหม่ให้แก่เธอ โดยทำการร่างแบบกระเป๋าในแบบที่เจนต้องการลงบนถุงใส่อาเจียนที่มีบริการบนเครื่องบิน และอีก 1 ปีต่อมา กระเป๋า Birkin Bag ใบแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

 

2. A Very First Birkin

กระเป๋า Birkin รุ่นแรก ที่ถูกออกแบบจากการสนทนาของ เจน เบอร์กิน และ ฌอง หลุยส์ ในครั้งนั้น เป็นสีดำ โดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากกระเป๋ารุ่น Haut À Courroies (HAC) แต่ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่า และเบากว่า ขนาดที่ได้รับความนิยมที่สุดในกลุ่มของสุภาพสตรีคือขนาด 25 และ 30 โดยในส่วนของสุภาพบุรุษ ขนาดที่ได้รับความนิยมจะอยู่ที่ 35 และ 40

 

3. Anatomy of The Birkin

ส่วนประกอบสำคัญหลัก ๆ ของกระเป๋าที่ประกอบขึ้นเป็นกายวิภาคของเบอร์กิน โดยหลัก ๆ จะประกอบด้วย หูจับแบบ double top handles ตัวล็อค twist-lock จาก Hermes รวมถึงสายรัดกระเป๋า 2 ข้าง ที่โอบเข้ากับตัวล็อค อันเป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋ารุ่นนี้ มีลักษณะคล้ายเข็มขัดปลายแหลมสองอันที่ยึดเข้ากับสายรัดด้านหน้า

กระเป๋าแต่ละใบยังประกอบด้วยลูกกุญแจ และซองหนังใส่ลูกกุญแจ ซึ่งจะถูกตัดเย็บขึ้นจากหนังเพียงแผ่นเดียวเท่านั้น (หากเป็นการเย็บติดกันระหว่างแผ่นหนัง 2 แผ่น ให้ระวังไว้ว่าอาจเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ) รวมทั้งหมุด Clou จำนวน 4 อันใต้ฐานกระเป๋า หากคุณพบว่าหมุดมีมากกว่าจำนวนดังกล่าว อาจเป็นสัญญาณเตือนของสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

 

4. Birkin’s Material

Birkin มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย เริ่มต้นด้วยวัสดุหนังที่สามารถพบเห็นโดยทั่วไป ได้แก่ Clemence, Epsom และ Togo ซึ่งทั้งหมดมีพื้นผิวลายเกรนที่แข็งแกร่ง ส่วนรุ่นที่มีลายหนังเนื้อดี มีความอ่อนนุ่มกว่า ได้แก่ Evercolor และ Chevre สำหรับพื้นผิวหนังเรียบ มี Barenia, Box Calf และ Swift ซึ่งหายากมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปัจจุบัน รวมทั้งตัวเลือกวัสดุอื่น ๆ ได้แก่ Veau Doblis (หนังกลับ) หรือแม้แต่หนังผสมและวัสดุอื่น ๆ เช่น ผ้าใบ รวมถึงหนังสัตว์หายาก Exotic และหนังรุ่น Limited Edition

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของวัสดุหนังได้ที่นี่ วิธีตรวจกระเป๋า Hermes ของแท้

 

5. Available in Exotics

แน่นอนว่ากระเป๋ายอดนิยมอย่าง Birkin จะต้องมีจำหน่ายในรูปแบบของวัสดุที่ตัดเย็บมาจากหนังสัตว์ Exotic หายาก ไม่ว่าจะเป็น หนังสัตว์เลื้อยคลาน (lizard) หนังจระเข้ หรือแม้แต่หนังนกกระจอกเทศ โดยโทนสียอดนิยมได้แก่ สีขาวหิมาลัยและหิมาลัยกริสเซนเดร (Himalaya Gris Cendre) โดยมีราคาแพงมาก อันเนื่องมาจากกระบวนการการผลิตหนังอันซับซ้อน เพื่อให้วัสดุหนังมีการไล่สีได้คล้ายกับเทือกเขาหิมาลัย โดยแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียดและพิถีพิถันเป็นอย่างมาก

สำหรับใครที่มองหากระเป๋า Birkin สีเขียวชอุ่มและหายากสุด ๆ ให้มองหา Ombre Lizard หรือ Grand Marriage โดยในรุ่นนี้ จะเป็นการผสมผสานระหว่างหนัง 3 ชนิด ได้แก่หนังจระเข้ที่หรูหราบริเวณตัวกระเป๋า เข้ากับหูจับที่ทำจากหนัง Lizard และทริมขอบด้วยหนังนกกระจอกเทศ

 

6. Come in Alternative Styles

กระเป๋า Birkin ยังมาในรูปแบบของรูปทรงต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากรูปทรงปกติดั้งเดิม สำหรับคนที่ไม่ชอบความจำเจ ตัวอย่างเช่น Birkin Ghillies ที่ขอบกระเป๋าและฐานเป็นพิเศษ และ Fringe Birkin ที่มาพร้อมกับระบายขอบกรุยกราย เป็นการเล่นกับหนังอย่างสนุกสนาน

 

7. Shadow Birkin

และยังมี Shadow Birkin ซึ่งเอกลักษณ์อยู่ที่ สายรัดหน้ากระเป๋า แนบสนิทเป็นชิ้นส่วนเดียวกันกับตัวกระเป๋า อีกรุ่นหนึ่งคือรุ่น Shoulder Birkin ที่มีด้ามจับด้านบนยาวขึ้นและฐานที่สั้นกว่าแต่กว้างกว่า ซึ่งถูกออกแบบในช่วงที่ Jean Paul Gaultier ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์

 

8. Extra Blind Stamps / Special Stamps

สำหรับกระเป๋าที่ผลิตจากหนังพิเศษ และหนังหายาก จะมีสัญลักษณ์พิเศษประทับอยู่ข้างๆกับ Heat Stamp “Hermès Paris Made in France” ด้านหน้าของกระเป๋า โดยมีสัญลักษณ์ดังต่อไปนี้

สัญลักษณ์รูป (☐) จะปรากฏบนกระเป๋าที่ทำจากหนังจระเข้ (alligator)

สัญลักษณ์ (..) ปรากฏบนกระเป๋าที่ทำจากหนังของจระเข้ ที่ถูกเลี้ยงที่ ซิมบับเว (Matro Niloticus Crocodile)

สัญลักษณ์ (^) ปรากฏบนกระเป๋าที่ทำจากหนังจระเข้ที่ถูกเลี้ยงที่ออสเตรเลีย (Matro Porosus)

สัญลักษณ์ (–) จะปรากฏบนกระเป๋าที่ทำจากหนังตะกวดแถบแอฟริกัน (Lizard)

บางใบจะมาพร้อมกับตราประทับพิเศษข้างโลโก้ Hermès ตัวอย่างเช่น มีตราประทับรูปเกือกม้า หรือรูปดาว ซึ่งหมายถึงสินค้าที่ถูกสั่งทำพิเศษ ซึ่งเป็นบริการปรับแต่งที่สงวนไว้สำหรับลูกค้ากิตติมศักดิ์ที่จงรักภักดีต่อแบรนด์อย่างเพียงพอเท่านั้น

 

9. The Price of Birkin

ราคาของกระเป๋า Birkin พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณได้เป็นเจ้าของมัน หากคุณเป็นผู้โชคดี ซึ่งได้มีโอกาสได้เป็นเจ้าของมันอย่างสดใหม่จากบูทีค และราคาในตลาดมือสอง ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติที่เคยมีบันทึกไว้ สำหรับกระเป๋า Birkin ที่แพงที่สุดที่มีการประมูลอยู่ที่ 450,000 ดอลลาร์สหรัฐในการประมูล Sotheby สำหรับ Diamond Himalaya Birkin 30 เมื่อปี ค.ศ. 2022 หรือเป็นเงินไทยประมาณ 16 ล้านบาท

 

10. Investment Piece

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ราคาเฉลี่ยของ Birkin เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนเปรียบการเป็นเจ้าของกระเป๋า Birkin เสมือนเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูงกว่าทองคำ กระเป๋าที่คุณเป็นเจ้าของในวันนี้อาจมีมูลค่ามากกว่านั้นอีกมาก เพียงสามหรือห้าปีข้างหน้า

ความพิเศษของ Birkin ไม่ได้อยู่ที่ราคาอันสูงลิ่วหรือดีไซน์การออกแบบกระเป๋าเท่านั้น แต่มันยังเป็นกระเป๋าที่ต้องรอคอยมากที่สุด ไม่ใช่ว่าคุณกำเงินจำนวนหนึ่ง เดินเข้าบูทีคของ Hermes และสามารถเป็นเจ้าของ Birkin สักใบได้ทันที บูทีค Hermes จะทำการสต๊อกกระเป๋าเพียงไม่กี่ใบ 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น ซึ่งคุณไม่อาจรู้ได้ล่วงหน้าว่า กระเป๋า Birkin สี รุ่น ขนาดที่คุณหมายตา จะมีหรือไม่ และที่สำคัญไม่มีจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ โดยกระเป๋า Birkin แต่ละใบใช้เวลาระหว่าง 15 ถึง 20 ชั่วโมงสำหรับช่างฝีมือหนึ่งคน

นอกจากราคาที่สูงเฉียดฟ้าแล้ว ปริมาณการผลิตที่จำกัดอันไม่สัมพันธ์กับความต้องการของตลาด และการต้องต่อคิวรอคอยกระเป๋าเป็นเวลาหลายปี เป็นสิ่งที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้เพิ่มคุณค่าในตัวเองเท่าทวีคูณ กลายเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ที่เศรษฐีบางคนยินดีที่จะจ่ายเพื่อซื้อเก็บไว้เก็งกำไรแทนการซื้อทองคำ