เพชร คือ อัญมณีล้ำค่าที่ถูกขนานนามให้เป็น “ราชาแห่งอัญมณี” ด้วยความแข็งแรง และคงความสวยงามที่ไม่เสื่อมตามกาลเวลา ทำให้ได้รับความนิยมนำไปทำเป็นเครื่องประดับของชนชั้นสูง ราชวงศ์ กษัตริย์ ความนิยมของเครื่องประดับเพชรเริ่มเพิ่มมากขึ้นในช่วงคริสตศตวรรษที่ 19 โดยบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ประวัติ Graff ที่มีอายุกว่า 6 ทศวรรษ และเป็นเจ้าของฉายาแบรนด์เครื่องประดับที่หรูหราที่สุดในโลก

The History of Graff

ลอเรนซ์ กราฟฟ์ (Laurence Graff) เกิดเมื่อ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1983 เขาเกิดในครอบครัวชาวยิว เมื่ออายุ 15 แม่ได้พา Laurence Graff ไปเป็นเด็กฝึกงานที่ ฮัตตัน การ์เด้น (Hatton Garden) ย่านอัญมณีที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน เมื่อได้เริ่มร่วมงานกับช่างอัญมณีที่มีประสบการณ์ เขาจึงได้เริ่มทำธุรกิจของตัวเองตอนอายุ 18 เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการซ่อมแซมเครื่องประดับสไตล์วิคตอเรียน ภายใต้ชื่อ กราฟฟ์ (Graff)

ความมีไหวพริบ และความกล้าที่จะเสี่ยงของลอเรนซ์ กราฟฟ์ ล้วนส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของเขา ครั้งหนึ่งเขาได้พบกับพ่อค้าเพชรที่ได้ทำการขายเพชรจำนวน 33 เม็ดในราคา 60 ปอนด์ให้กับลอเรนซ์ กราฟฟ์ และเขามีแนวความคิดที่ว่า แทนที่จะนำเพชร 1 เม็ดไปประดับแหวน 33 วง ควรนำเพชรทั้ง 33 เม็ดมาประดับบนแหวนวงเดียว ทำให้ได้แหวนเพชรที่เป็นประกายงดงาม แหวนวงนี้ถูกซื้อโดยช่างอัญมณีในอังกฤษ และมีการสั่งซื้อแหวนแบบเดียวกันอีก 1 วง

เขามีความปรารถนาและแรงบันดาลใจในการคิดหาวิธีการสร้างสรรค์แหวน การออกแบบเครื่องประดับที่ไม่เหมือนใคร นอกจากแหวนเพชรแล้ว เขาก็เริ่มออกแบบเครื่องประดับที่เป็นมรกต ทับทิม และแซฟไฟร์ หลังจากที่ Graff ก่อตั้งขึ้นมาได้เพียง 2 ปื ก็มีการเปิดร้านขึ้นมาอีก 2 แห่งในกรุงลอนดอน ในปี ค.ศ. 1967 ลอเรนซ์ กราฟฟ์ ในวัย 29 ปีได้ตัดสินใจนำงานออกแบบอัญมณีของเขาสู่สายตาชาวโลก ด้วยการเดินทางไปตามนิทรรศการต่าง ๆ ทั่วโลก

Rarity

Graff คือผู้ที่ดูแลอัญมณีที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงที่สุดของโลก ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันจากแหล่งที่มา และแต่ละชิ้นที่เราได้รวบรวมมาไว้ให้นั้น ล้วนเป็นเพชรมีชื่อเสียงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในด้านของขนาดที่ใหญ่ เพชรที่มีน้ำหนักมาก หรือเป็นเพชรหายาก และเพชรที่ราคาแพง นับว่า Graff เป็นผู้เจียระไน และเป็นผู้เขียนเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเพชรที่ล้ำค่าทั้งหมดนี้

 

The Star of Bombay

เป็นเพชรที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโมกุล Moghul Emperors ได้มาจากเหมือง กอลคอนดา (Golconda) ในราชอาณาจักร Golconda (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของรัฐไฮเดอราบัด (Hyderabad) ของอินเดีย) เป็นแหล่งผลิตเพชรที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และงดงามที่สุด Laurence Graff ซื้อเพชรเม็ดนี้จากพ่อค้าในยุโรปซึ่งเป็นนายหน้าขายเพชรของตระกูลผู้ดีในอินเดีย เพชรเม็ดนี้ถูกเจียระไนด้วยมรกตเม็ดใหญ่สีเหลืองทองอร่ามสวยงาม และมีน้ำหนักอยู่ที่ 43.73 กะรัต

 

The Imperial Blue

Graff ได้มาในปีค.ศ. 1984 มีน้ำหนักถึง 39.31 กะรัต เป็นเพชร Blue Diamond ที่ไม่มีตำหนิ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เฉดสี ice-cool ที่น่าทึ่งของมันถูกทำให้เข้มขึ้นด้วยการเจียระไนเป็นรูปทรงลูกแพร์ ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร และดึงดูดสายตาได้มากที่สุด ความพิเศษของเพชร Imperial Blue คือมันเป็นหนึ่งในเพชรสีน้ำเงินที่หายากที่สุดในโลก

 

The Paragon

เพชรที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ถูกเปิดตัวในงานนิทรรศการ Graff ที่โรงแรม Beverly Wilshire ใน Beverly Hills เพชรทั้งหมดนี้มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 137.82 กะรัต เป็นเพชรไร้ตำหนิ D color ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพชรถูกเจียระไนตัดออกเป็นรูปแบบของโล่ว่าวเจ็ดด้าน และถูกนำไปประดับอยู่ในสร้อยคอและสร้อยข้อมือ ซึ่งสร้อยคอมีนั้นมีเพชรสีชมพูฟ้าและเหลืองที่หายากเช่นเดียวกับ Paragon

 

The Empress Rose

เพชรที่โดดเด่นเม็ดนี้ถูกนำเสนอในปี 2001 โดย Graff ด้วยน้ำหนัก 70.39 กะรัต เพชรเม็ดนี้นับเป็นเพชรสีชมพูอ่อนที่ไร้ตำหนิภายในที่ใหญ่ที่สุดในโลก รูปทรงลูกแพร์ที่ได้สัดส่วนอย่างลงตัวช่วยให้แสงส่องเข้ามาในเนื้อหินและแผ่ออกไปด้านนอกทำให้เกิดสีชมพูที่ดูสวยงามแบบผู้หญิง Empress Rose เป็นผลงานชิ้นเอกของ Graff อย่างแท้จริงเป็นหนึ่งในเพชรสีชมพูที่หายากที่สุด

 

The Magnificence

อัญมณีที่ไร้ที่ตินี้ ถูกนำเสนอโดย Graff ในปี 2008 ด้วยน้ำหนักถึง 243.96 กะรัต นับเป็นเพชรที่ไร้ตำหนิที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความงดงามของเพชรและมุมมองที่ไร้ที่ตินี้ทำให้ ลอเรนซ์ กราฟฟ์ หลงใหลจนเขาตั้งชื่อเพรชว่า Magnificence ในทันที นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องว่า “ยอดเยี่ยม” จาก GIA และ Magnificence เป็นเพชรไร้สีที่มีคุณภาพเหนือใคร

 

The Wittlesbach-Graff

เพชรสีน้ำเงินที่ขุดพบในเหมือง Golconda เดียวกันกับเพชร The Star of Bombay มีน้ำหนัก 31.06 กะรัต ซึ่งไม่เคยพบมาก่อนสำหรับหินที่มีสีนี้ มันถูกนำไปสร้างมงกุฎเพชรที่แตกต่างกันมากมายในช่วงราชวงศ์ต่าง ๆ ของกษัตริย์ยุโรป เมื่อ Laurence Graff ได้รับเพชรเม็ดนี้ในปี 2009 เขาตัดสินใจที่จะขัดมันอีกครั้งเพื่อซ่อมแซมพื้นผิวที่ผุกร่อนและปรับปรุงสีทำให้เป็นเพชรสีน้ำเงินเข้มธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

Three Extraordinary Diamonds

เพชรที่โดดเด่นสามเม็ดนี้อยู่ใน Graff collection โดยเพชร Graff Constellation มีน้ำหนักถึง 102.79 กะรัต และเป็นเพชร D color ที่เจียระไนทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนเพชร Delaire Sunrise เพชรสีเหลืองสดใสนี้มีน้ำหนัก 118.08 กะรัต เป็นเพชรเจียระไนทรงเหลี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Graff Pink ที่หายากนี้มีน้ำหนัก 23.88 กะรัต เป็นเพชรสีชมพูสดใส ภายในไร้ตำหนิชนิด Type IIa Diamond

 

The Graff Sweethearts

ถูกค้นพบที่เหมืองเดียวกันในราชอาณาจักรเลโซโท เป็นเพชรรูปหัวใจ Type IIa ซึ่งเป็นเพชรที่มีความบริสุทธิ์ทางเคมีมากที่สุดที่มีอยู่ ด้วยการขัดเงาและความสมมาตรที่ยอดเยี่ยมทำให้เพชรทั้งสองมีขนาด 51.53 และ 50.76 กะรัต The Graff Sweethearts เป็นเพชรรูปหัวใจคู่แรกของโลกที่มีความบริสุทธิ์และมีคุณภาพที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก

 

The Letseng Star

เมื่อมันมาอยู่ในมือของ Graff ในปี 2013 จากเพชรเนื้อหยาบกลายมาเป็น Letseng Star เป็นเพชรที่น่าทึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยสีและคุณภาพที่ไม่มีที่ติ น้ำหนัก 550 กะรัต เพชรถูกเจียระไนเป็นรูปทรงลูกแพร์ ที่มีความงดงามจำนวน 28 เม็ด น้ำหนักทั้งหมดนั้น มีน้ำหนักรวมถึง 169.76 กะรัต เป็นครั้งแรกของโลกที่มีเพชร Pear Shape ภายในไร้ตำหนิแบบ Type IIa และเป็นเพชรน้ำที่ดีที่สุดมีสีเจือปนน้อยที่สุดหรือเรียกว่า D color

 

The Graff Perfection

ค้นพบในแองโกลา The Graff Perfection ได้รับการเจียระไนเป็นครั้งแรกโดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์จากน้ำหนัก 225 กะรัตให้มีน้ำหนัก 102.44 กะรัต ต่อมา Laurence Graff ได้ทำการประเมินใหม่อีกครั้ง และสั่งให้ขัดเพื่อให้ได้เพชรที่สมบูรณ์แบบ The Graff Perfection เป็น crystal รูปทรงลูกแพร์ไร้ที่ติมีน้ำหนัก 100 กะรัต

 

The Golden Empress

คริสตัลสีน้ำผึ้งที่ได้มาในปี ค.ศ. 2015 ได้จากคริสตัลขนาด 299 กะรัต ที่ขุดพบในราชอาณาจักรเลโซโท และยังมีคริสตัลที่สวยงามอีกแปดก้อนในบริเวณที่พบ และเมื่อคริสตัล Golden Empress ผ่านการเจียระไนแล้วมีน้ำหนักมากถึง 132.55 กะรัต เพชรเจียระไนสีเหลืองเข้มเม็ดนี้ให้สีสันที่โดดเด่นน่าจดจำ เป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะเลียนแบบได้

 

A Record-breaking Year

การเปลี่ยนแร่ให้กลายเป็นเพชรที่สวยงามทั้ง 4 แบบในปี ค.ศ. 2016 ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาและเป็นปีที่พิเศษของ Graff  โดยเพชรที่ถูกนำเสนอมีดังนี้ คือ Graff Vendôme ที่มีรูปทรงลูกแพร์น้ำหนัก 105.07 กะรัต Star of Audrey น้ำหนัก 52.41 กะรัต Graff Eternal Twins ที่มีน้ำหนัก 50.23 กะรัต และ Graff Venus มีน้ำหนัก 118.78 กะรัต ซึ่งได้รับการรับรองจาก GIA ให้เป็นเพชรรูปหัวใจ D ไร้ตำหนิที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

The Graff Lesedi La Rona

เพชรที่มีน้ำหนักมากถึง 302.37 กะรัต เป็นเพชรที่มีค่าสีและมีความใสสูงสุดเท่าที่ GIA เคยได้รับการรับรองและเป็นเพชรเจียระไนเหลี่ยมมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก Lesedi La Rona ถูกค้นพบในบอตสวานา (Botswana) และได้รับการบันทึกว่าเป็นแร่เพชรที่ใหญ่เป็นอันดับสองที่เคยค้นพบ และยังพบแร่ที่อยู่ใกล้เคียงอีกจำนวน 66 เม็ดซึ่งมีขนาดตั้งแต่น้ำหนักไม่ถึง 1 กะรัตไปจนถึงน้ำหนักมากกว่า 26 กะรัต เพชรแต่ละเม็ดเหล่านี้ได้รับการจารึก Graff Lesedi La Rona และหมายเลข GIA ที่เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับใบรับรองความเป็นของแท้จาก Graff และ GIA

 

ความหลงใหลในเพชรเป็นแรงผลักดันในชีวิตของ Laurence Graff ตั้งแต่เมื่อ 60 กว่าปีที่แล้ว เขาเป็นนักอัญมณีใน Hatton Garden ย่านอัญมณีของกรุงลอนดอน เรื่องราว ประวัติ Graff กับการเปลี่ยนแปลงของเขาคล้ายกับเพชรมาก เปลี่ยนจากแร่ดิบหยาบเป็นอัญมณีล้ำค่าและถูกเจียระไนอย่างสวยงาม เขาศึกษาเรื่องราวของอัญมณีอย่างใกล้ชิดเพื่อทำความเข้าใจความบริสุทธิ์ และวิธีการเจียระไน ทำให้อัญมณีเป็นที่น่าหลงใหลไปตลอดกาล

หกทศวรรษหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่วงการและได้รับเกียรติประวัติอันทรงเกียรติของเขา ได้แก่ รางวัล Queen’s Awards to Industry สี่รางวัล และ OBE รางวัล Queen’s Birthday Honors List  Laurence Graff เขาเล่าว่าเขายังรู้สึกแบบเดียวกันกับตอนที่ก่อตั้ง Graff เขาเชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกเพราะ ได้เห็นเพชรทุกวัน แม้ว่าธุรกิจจะมีความหลากหลายและขยายไปทั่วโลก แต่ Graff ยังคงเป็นธุรกิจของครอบครัวซึ่งดำเนินงานในจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมอัญมณี มรดกตกทอดนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอัญมณีจาก Graff ยังคงเป็นอัญมณีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

รัก
xoxo