เสื้อผ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด คือ เสื้อผ้าที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ สำหรับในประเทศไทย หนึ่งในแบรนด์ที่จะไม่กล่าวถึงเลยไม่ได้นั้นก็คือแบรนด์ Milin ซึ่งได้สร้างสรรค์เสื้อผ้าอันงดงาม มีเอกลักษณ์ ดูเก๋ไก๋ในตอนกลางวัน และดูเซ็กซี่ สุดฮอตในยามค่ำคืน KATEXOXO จะชวนมาเปิดเผยเรื่องราว ประวัติแบรนด์ Milin ดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย เสน่ห์และความงาม ที่บรรดาเหล่าสาวกแฟชั่นนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี

ประวัติแบรนด์ Milin

ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Milin คือ มีมี่ มิลิน ยุวจรัสกุล เป็นบุตรสาวคนโตของ พรเทพ และมยุรา ยุวจรัสกุล ซึ่งเธอมีแววความเป็นศิลปินตั้งแต่เด็ก ในช่วงมัธยมปลายเธอจึงได้เดินทางไปศึกษาติวเข้มพื้นฐานทางด้านศิลปะที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งต้องเรียนทุกอย่างที่เกี่ยวกับศิลปะ หลังจากนั้นเธอก็เลือกศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ด้านแฟชั่นดีไซน์ จาก Central Saint Martins ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเลือกเรียนด้านการออกแบบลายผ้าเป็นหลัก

เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว มีมี่ มิลิน ยุวจรัสกุล ก็ได้ทำงานทั้งในด้านดีไซน์ ด้านสไตลิสท์ ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้ช่วยสไตลิสท์ที่ นิตยาสารสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ยังเป็นคอลัมนิสท์ให้กับนิตยสาร โฆษณา ภาพยนตร์ ทั้งในประเทศไทยและประเทศอังกฤษ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินทางไปยังเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาต่อเกี่ยวกับรูปแบบของธุรกิจแฟชั่น เทรนด์ ไปจนถึงศิลปะการใช้สี ที่สถาบันเทคโนโลยีแฟชั่น Fashion Institute of Technology (FIT)

ด้วยใจที่รักในงานแฟชั่น บวกกับความมุ่งมั่นจึงทำให้ผลงานของเธอนั้นเป็นที่ถูกตาถูกใจของแบรนด์ Jill Stuart ทางแบรนด์จึงได้มอบโอกาสให้ มีมี่ มิลิน ได้เข้าฝึกงาน โดย Jill Stuart เป็นแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ด้วยเอกลักษณ์ที่ชวนให้หลงใหล และไม่เหมือนใคร ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ เป็นที่นิยมของสาว ๆ ไปทั่วโลก

มีมี่ มิลิน ยุวจรัสกุล กลับมาที่ประเทศไทยเพื่อเริ่มต้นสร้างแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองในปี ค.ศ. 2009 โดยใช้ชื่อว่า Milin ซึ่งมีคอนเซ็ปต์อันเด่นชัด ความเป็นสาวมั่น เซ็กซี่ เฉี่ยว เปรี้ยว บ่งบอกตัวตนความเป็นสาวสมัยใหม่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ หลังจากการเปิดตัวเพียงไม่นาน เสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรีจากแบรนด์ Milin ก็กลายเป็นไอเทมที่ครองใจสาว ๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่น รวมไปจนถึงดารา เซเลบริตี้ จวบจนปัจจุบัน

Elegant Sensual but Rebellious

ปรัชญาของแบรนด์มิลินคือ “Elegant Sensual but Rebellious” (สง่างาม เย้ายวน แต่ดื้อรั้น) อันเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตน ความเป็น DNA ของแบรนด์ได้อย่างเด่นชัด สิ่งเหล่านี้จะปรากฎอยู่ในทุก ๆ การดีไซน์ของมิลินอย่างสมบูรณ์แบบ นั่นจึงทำให้เราได้เห็นเสื้อผ้าที่มาในสไตล์ เรียบหรู เซ็กซี่ และดูแตกต่าง เพราะในการออกแบบเสื้อผ้าแต่ละครั้งก็เหมือนกับการลองทำค็อกเทล ที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

อีกหนึ่งความโดดเด่นของเสื้อผ้าสไตล์ คือ การใช้ผ้าพิมพ์ลายพิเศษที่ มีมี่ มิลิน ตั้งใจออกแบบและผลิตออกมาในจำนวนจำกัด ซึ่งผ้าพิมพ์ลายเหล่านี้จะถูกนำไปตัดเย็บเป็นชุดกระโปรงค็อกเทลสั้น ชุดเกาะอก ไปจนถึงชุดราตรียาว ที่มีความเรียบหรู และน่าค้นหา ผลงานการออกแบบในสไตล์นี้ก็ได้กลายมาเป็นซิกเนเจอร์ของ Milin และเป็นไอเทมสุดฮอตของแบรนด์อีกด้วย

Milin ยังทำเสื้อผ้าออกมาจำหน่ายอีกหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นชุดสูทผ้าซาติน แจ็คเกตที่นำเอามามิกซ์จับคู่เข้ากับกางเกงขายาวทรงแคบ ซึ่งดีไซเนอร์ผู้ออกแบบได้นำเสนอความเป็นมัสคิวลีน (Masculine) ออกมาในเสื้อผ้าเดย์แวร์ นอกจากนี้แบรนด์เองก็ได้ทำเสื้อผ้าในไลน์เบสิกด้วยเช่นกัน คือมีตั้งแต่เสื้อเชิร์ต เสื้อแขนกุด รวมไปถึงเสื้อสายเดี่ยว และกระโปรงสั้น ซึ่งไม่ว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนของ Milin ก็ล้วนสร้างความดึงดูด ความน่าสนใจให้กับผู้สวมใส่ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

Milin กับชุดเข้าประกวด Miss Universe ของ “อแมนด้า”

ในปี ค.ศ. 2020 มีมี่ มิลิน ยุวจรัสกุล ได้ทำงานในฐานะสไตล์ ไดเรกเตอร์ ให้กับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Milin ได้ออกแบบชุดสวย ๆ หลายชุด โดยมีตั้งแต่ชุดที่ใส่เดินทางไปประกวด ชุดที่ใช้ในการประกวด ชุดทำกิจกรรมต่าง ๆ ชุดราตรี และชุดที่สวมใส่ในการถ่ายภาพพอร์เทรต ซึ่งในแต่ละวันจะมีชุดสวย ๆ ให้แฟนนางงามได้ฮือฮาตลอดการประกวด และถึงแม้จะเป็นปีแรกที่ได้ทำงานให้กับกองประกวด แต่ก็คุ้นเคยกับวงการนางงามเป็นอย่างดี เพราะเป็นแฟนนางงามที่ติดตามการประกวดมาตลอด

แบรนด์ Milin นั้นเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นและตั้งใจของ มีมี่ มิลิน ยุวจรัสกุล เธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เธอโชคดีที่ค้นพบตัวเองได้เร็ว จึงทำให้เธอมุ่งมั่นในเส้นทางการเป็นดีไซเนอร์ เธอทุ่มเทให้กับการเรียนพื้นฐานเกี่ยวกับแฟชั่น และใช้ความพยายามกับสิ่งที่รักเป็นอย่างมาก ในที่สุดเธอก็ได้สร้างแบรนด์เสื้อผ้าที่ส่งต่อพลังความมั่นใจให้กับผู้หญิง โดยการถ่ายทอดเสื้อผ้าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่ ไม่ยึดติดเพียงแค่เสื้อผ้าผู้หญิง แต่รวมไปถึง LGBT+ อีกด้วย

รัก
xoxo